ตลิ่งแม่น้ำน่านพังทำถนนช่วงบ้านหัวแหลมทรุดตัวยาว50เมตรต้องปิดการสัญจร
เกิดเหตุตลิ่งแม่น้ำน่าน บริเวณบ้านหัวแหลมม.1 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบางพระทุ่มพังทลายลง ส่งผลให้ถนนเลียบแม่น้ำน่านทรุดตัวยาว 50 เมตร ต้องปิดเส้นทางไม่ให้สัญจร ขณะที่เจ้าของบ้านจุดที่ตลิ่งพัง เผยถนนทรุดตัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 61 หวั่นจะลามหนักเข้ามาถึงตัวบ้าน
เมื่อวันที่ 6ก.ย. 2561 นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยอบต.บ้านไร่ และผู้นำท้องที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตลิ่งแม่น้ำน่านพังทลายลงแม่น้ำ ส่งผลให้ถนนทรุดตัวที่บ้านหัวแหลม หมู่ที่ 1 ต.บ้านไร่ โดยตลิ่งถูกน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนที่วันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมากัดเซาะ เกิดการทรุดตัว และพังทลายของดินลงแม่น้ำระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร ทำให้ถนนเลียบแม่น้ำน่านทรุด ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และบริเวณจุดพังของตลิ่งได้ขยายพื้นที่เข้าใกล้กับบ้านเรือนประชาชนด้วย จึงได้จัดทำแนวกั้นเพื่อไม่ให้ประชาชนใช้ถนนจุดดังกล่าวสัญจร พร้อมรายงานเหตุให้นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.พิษณุโลก ทราบและพิจารณาให้ความช่วยเหลือ เพราะเกินศักยภาพของ อปท.ที่จะซ่อมแซม
พร้อมกันนี้ นายบำรุง รื่นบรรเทิง รองผู้ว่าราชการจังหวัด พิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางมาตรวจสอบสภาพพื้นที่เพื่อหาแนวทางในการซ่อมแซมแก้ไขต่อไป
สำหรับบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ ติดกับจุดที่ตลิ่งพังเป็นบ้านของนางทุเรียน ป้วนก้อน อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 88/3 ม.1 ต.บ้านไร่ กล่าวว่า ถนนเริ่มทรุด ตัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ช่วงนั้นเริ่มทรุดตัวเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของถนนกระทั่งวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนตกหนักมาก ปรากฏว่า การทรุดตัวได้ขยายวงกว้างสุดไปหมดทั้งถนนเลยมาจนติดชิด ประตูหน้าบ้าน ซึ่งตนก็หวาดกลัวเหมือนกันเกรงว่าจะเข้ามาถึงตัวบ้าน
