หนังสือเวียนที่ออกมา เป็นเหมือนคู่มือสำหรับเจ้าของธุรกิจให้ปฏิบัติตามกฎหมายชารีอะฮ์ ที่ห้ามหญิงชายยังไม่ได้แต่งงานแสดงความรักในที่สาธารณะ และจูฟลีวัน หัวหน้าสำนักงานชารีอะฮ์ท้องถิ่น กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีผู้หญิง เพื่อให้พวกเธอรู้สึกสบายใจ ประพฤติดี และไม่กระทำสิ่งใดอันเป็นการละเมิดกฎหมายอิสลาม ไม่ใช่เพื่อกดขี่
รายงานระบุว่า หนังสือฉบับนี้ลงนามโดยหัวหน้าเขตเมื่อ 5 สิงหาคม มีทั้งหมด 13 ข้อ รวมถึงการห้ามเพื่อนร่วมงานหญิง-ชาย นั่งรับประอาหารช่วงพักกลางวันร่วมโต๊ะ และร้านอาหารกับร้านกาแฟ ไม่ควรรับลูกค้าหญิงที่มาตามลำพัง หรือไม่ได้มากับครอบครัวของตัวเองหลังเวลา 21.00 น
จูฟลีวัน กล่าวว่า ระเบียบนี้ออกมาครั้งแรกปลายปี 2559 และปรับแก้ 2 ครั้ง แม้มีคนถูกจับฐานฝ่าฝืนเป็นระยะ แต่ไม่เคยมีการลงโทษ เพราะถือเป็นคำแนะนำ ไม่ใช่กฎหมาย แต่ทางการมีแผนเสนอให้สภาท้องถิ่นยกระดับเป็นกฎหมาย มีบทลงโทษหากจำเป็น
นักเคลื่อนไหวแสดงความวิตก เพราะหลายข้อในคู่มือนี้ มุ่งเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง และอาจทำให้บางคนตีความตามอำเภอใจ
เมืองต่างๆในอาเจะห์ขึ้นชื่อเรื่องการออกกฎบังคับใช้กับสตรี สามปีก่อน เมืองบันดาอาเจะห์ เมืองเอกของอาเจะห์ ห้ามผู้หญิงเข้าไปในร้านกาแฟ และสนามกีฬา หลังเวลา 23.00 น. และในปี 2556 เมืองลกซูมาเว อีกเมืองในสุมาตราเหนือ สั่งผู้หญิงห้ามนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ นายกเทศมนตรีกล่าวในเวลานั้นว่า การนั่งท่านั้นซ้อนกับผู้ชายที่เป็นคนขับ เป็นเรื่องไม่เหมาะสม