ป่าบาลาฮาลา สวรรค์ของนักดูนกชายแดนใต้

เพราะมีชื่อบ้านนามเมืองคือหมู่บ้านบาลาอยู่ที่นั่น ส่วนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เรียกป่าฮาลาบาลา เนื่องจากในอดีตมีหมู่บ้านฮาลาอยู่ในผืนป่าแห่งนั้นเช่นกัน แต่ปัจจุบันมีการเรียกเหมารวมเป็นชื่อเดียว คือ ป่าฮาลาบาลา เนื่องจากไปยึดเอาชื่อของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา เป็นหลักเพราะครอบคลุมทั้งสองพื้นที่แม้จะแยกส่วนกันชัดเจน

ป่าบาลาฮาลา นับเป็นสวรรค์ของนักดูนกอย่างแท้จริง เพราะการเดินทางสะดวกมีถนนสายยุทธศาสตร์ตัดผ่านภูเขาตั้งแต่ แว้งไปจนถึงสุคิริน ต่างจากป่าฮาลาบาลาที่เบตง ต้องนั่งเรือไปอย่างอย่างเดียว ผืนป่าชายแดนภาคใต้แห่งนี้เมื่อรวมกับเทือกเขาบูโดมีนกเงือกอาศัยอยู่ถึง 10 สายพันธุ์ นับว่ามากที่สุดจาก 13 สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย นับเป็นเอกลักษณ์ของป่าชายแดนใต้ที่ต้องมีนกเงือกเป็นของคู่กัน


แต่ที่นี่หาใช่มีแต่นกเงือกเท่านั้น ยังคงมีนกป่าหายาก นกเฉพาะถิ่นอีกหลายชนิดที่เป็นน่าสนใจ แม้ป่าบาลาฮาลาจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวเปิดเหมือนพื้นที่ป่าอื่นๆ แต่ยังคงมีนักนิยมไพร ที่ชื่นชอบการดูนกทั้งในและนอกพื้นที่แวะเวียนมาชื่นชมเก็บความประทับใจใส่เมมโมรี่การ์ดกันได้ทั้งปี โดยเฉพาะช่วงนี้เริ่มเข้าสู่หน้าฝน ผลไม้ป่าบางชนิดเช่นลูกไทร ออกลูกเหลือง แดง สะพรั่งเป็นอาหารอันโอชะให้แก่นกป่านานาชนิดได้เก็บกิน เช่นเดียวกับนกปรอดท้องสีเทา ( Grey - bellied Bulbul ) ตัวนี้ที่กำลังเอร็ดอร่อย โดยไม่สนใจเสียงลั่นของชัตเตอร์ขณะเก็บกินผลของลูกไทรต้นนั้น