เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ก.ย.61 ณ ท่าอากาศยานเลย ถนนมลิวรรณ ต.นาอาน อ.เมือง จ.เลย นายบรรพต ยาฟอง นายอำเภอเมืองเลย พร้อมด้วยนายก้าน กุณวงษ์ นายกเทศบาลตำบลนาอ้อ อ.เมือง จ.เลย ข้าราชการ ประชาชนร่วมต้อนรับ น.ส.มัสยา ดวงศรี(น้องว่าน) ซึ่งคว้า 2 เหรียญทอง การแข่งขันเซปัคตะกร้อประเภททีมชุดและทีม 4 คน จากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ณ ประเทศอินโดนีเซีย
นายบรรพต ยาฟอง นายอำเภอเมืองเลย ในนามของจังหวัดเลยโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเลย มอบให้ตนมารับนักกีฬาเหรียญทองครั้งนี้ นับว่าเป็นความภาคภูมิใจ ความปิติยินดีอย่างยิ่งที่สร้างชื่อเสียงมาสู่เมืองเลยบ้านเกิด ครั้งที่ 17 ที่เกลาเหลีใต้ก็คว้ามา 2 เหรียญทอง ครั้งที่อีก 2 เหรียญทอง ทางภาครัฐจัดงบประมาณให้เหรียญทองละ 2 ล้านบาท ทราบว่าน้องว่านเป็นนักกีฬาที่มีความมานะ อดทน สูงตั้งแต่เด็ก สู้ชีวิตทั้งการกีฬาและการเรียนด้วยตนเองมาตลอด การต้อนรับก็รับมอบพวงมาลัย ชื่อดอกไม้แล้วก็แห่รอบเมืองเลยและรอบบ้านนาอ้อ จากนั้นก็สู่พิธีรับขวัญบายศรีสู่ขวัญ ร่วมงานเลี้ยงรับและทานอาหารที่เขาชอบมากคือแกงขี้เหล็กที่แม่ของน้องว่านเตรียมไว้แล้ว ส่วนการงานนั้นทราบว่ามี 2 ส่วนคือทหารเรือและทหารอากาศ
น.ส.มัสยา ดวงศรี (น้องวาน) เปิดเผยว่า ครั้งนี้เป็นเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 3 สมัย ซ้อน ดีใจที่เห็นทางจังหวัดรวมทั้งพี่ๆน้อง ญาติมาต้อนรับซึ่งก็ให้กำลังใจกับตนมาตลอดกับการแข่งขันทุกครั้ง สิ่งที่ทำให้ตนประสพผลสำเร็จด้านกีฬาคือพ่อ และแม่ อันกับแรกที่คอยสนับสนุน ส่งเสริม ให้กำลังใจ ตอนนี้ทำงานที่บริษัท บุญรอดฯ ในอนาคตตนมีความต้องการเป็นข้าราชการทหารเพื่อรับใช้ชาติ โดยเฉพาะทหารอากาศ ชอบและอยากทำมาก วันนี้ก็มองลูกตะกร้อแก่เด็กรุ่นน้องเพื่อเป็นเป็นแรงใจให้เล่นกีฬา ต้องการให้เด็กมีความภูมิใจ มีความมุ่งมั่นในกีฬาที่ตนรัก ที่สำคัญต้องรักษาวินัย ยึดระเบียบ บริหารตนเองในด้านต่างๆและรู้จักรับผิดชอบด้วย
นางแสงเดือน ดวงศรี อายุ 50 ปี เลขที่ 13 หมู่ 3 บ้านนาอ้อ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย กล่าวว่า น้องว่าเป็นลูกของตนกับนายสมศักดิ์ ดวงศรี อายุ 59 ปี อาชีพทำไร่-ทำนา พ่อจบการศึกษาเพียง ป. 4 ส่วนแม่ จบ ป.6 น้องว่านเป็นเด็กที่มีมานะอดทน ชองเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กมักจะไปนั่งดูรุ่นพี่เล่นกีฬาที่ รร.บ้านนาโคก ต.ศรีสองรัก องเมืองเลย เมื่อเรียนจบคุณครูพละศึกษาเห็นว่ามีฝีมือ ใจรักกีฬาร่างกายแข็งแรงจึงแนะนำให้สมัครเรียนที่ รร.กีฬาขอนแก่น จากนั้นมีการคัดตัวก็ผ่านไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาจนจบ ปริญญาตรี จากนั้นก็ไปเรียนด้วยตนเองที่ มหาวอทยาลัยรามคำแหงระดับปริญญาโท ปีที่ 3 ส่วนงานนั้นทำที่บริษัท บุญรอดฯ นานๆจะกลับบ้านครั้งหรือเมทื่อจบการแข่งขันเท่านั้น แต่จะโทรมาบ่อยมาก สำหรับเงินที่ได้รับจาการแข่งขันก็จะทำบุญ มอบให้กับงานด้านสาธารณประโยชน์ สาธารณกุศล เช่นกิจกรรมของ อปพร. กิจกรรม/โครงการเพื่อส่วนรวมของท้องถิ่น นอกนั้นก็จะใช้จ่ายในการศึกษา ครอบครัวของพ่อ-แม่ พี่-หลาน และเก็บออมไว้ในอนาคต ส่วนงานในอนาคตน้องว่านบอกว่าต้องการเป็นข้าราชการทหาร ที่พ่อ-แม่ ปลื้มใจมากคือ น้องว่านเติบโตทั้งการเรียน การกีฬา การศึกษาและวางอนาคตด้วยสองมือ สองเท้าด้วยตนเอง ในสภาพจิตใจที่เข้มแข็งของเขา ต้องขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสให้การสนับสนุนเขาตลอดมา