ซึ่งในการมาทานทางร้านจะรับ แค่10ท่าน แบ่งเป็นสองรอบต่อวันเท่านั้น สำหรับการเสิร์ฟแบบเป็นคอร์สของทางร้าน แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือOmakase Course (8,000++ บาท)โดยจะเสิร์ฟซูชิประมาณ 16 คำขึ้นไป (รวมของว่างและของหวาน) และNigiri Course (4,000++ บาท)ที่เสิร์ฟซูชิเพียง 12-14 คำ (รวมของว่างและของหวาน) ในส่วนของ Omakase Course หลากหลายเมนูภายในคอร์ส
ข้าวญี่ปุ่นและเป๋าฮื้อที่นำไปหมักกับสาเกเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง ราดซอสตับเป๋าฮื้อที่ใช้ตับของเป๋าฮื้อ 5-10 ตัว เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมมากที่สุด เวลาทานให้คลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน
ที่เชฟปั้นเสิร์ฟให้ทานกับเมนูWarabi Mochiแป้งที่ทำจากพืช 100 เปอร์เซ็นต์ที่ รสเนื้อสัมผัสนุ่ม เหนึบหนับทานคู่กับน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายแดงโอกินาว่า โรยหน้าด้วยผงคินาโกะและดอกซากุระดองเกลือ เวลาทานแนะนำให้คนทุกอย่างให้เข้ากัน ได้รสหวานปนขมกำลังดีเมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมชาโฮจิฉะ เป็นการทิ้งท้ายมื้อแสนอร่อยนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
Omakase แล้วแต่เชฟ หรือ ตามใจเชฟ
อย่างที่หลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการกินอาหารแบบOmakaseนั้นมีข้อดีตรงที่เชฟจะปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดซึ่งมีอยู่ในวันนั้นความดีงามสำคัญของศาสตร์แห่งโอมากาเสะคือศิลปะการทำอาหารที่แสดงศักยภาพทั้งศาสตร์และศิลป์ของเชฟสู่มือผู้ทานผสมผสานทั้งความเชี่ยวชาญและความฉลาดเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนเพื่อส่งต่อประสบการณ์การรับประทานอาหารตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย
ศาสตร์และวัตถุดิบชั้นเลิศ
ได้ถูกรวบรวมผสมผสานกันอย่างละเมียดละไมจากความเชี่ยวชาญของหัวหน้าเชฟร้านSushi Ichizuนั่นคือเชฟRiku Todaซึ่งมีประสบการณ์การบ่มเพาะฝีมือจากเชฟระดับเทพ ฮาชิโระ มิตสุทานิ(Hachiro Mitzutani)ลูกศิษย์เอกสายตรงของเชฟซูชิในตำนานอย่างJiro Onoเขาจึงมีรากฐานของซูชิสไตล์เอโดะมาเอะ (Edomae)อย่างชัดเจนจนเมื่อเชฟมิตสุทานิประกาศเกษียณตัวเองโทดะจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของเชฟทาคาอากิ ซูกิตะ (Takaaki Sugita)และเริ่มงานที่ มิยาโกะซูชิ(Miyakozushi)เมื่อร้านเป็นที่รู้จักจึงย้ายสถานที่พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นซูชิซูกิตะ (Sushi Sugita)ซึ่งโทดะนั้นได้เป็นซูเชฟหรือเชฟมือรองจากซูกิตะ จนคว้าดาวมิชลินมาได้1ดวงในปีแรกที่เปิดขาย
ไม่เพียงเท่านั้นร้านSushi Ichizu
ที่นี่ยังได้เหรียญทองจากTabelog (เว็บไซต์รีวิวอาหารชื่อดังของญี่ปุ่น)Tabelog Gold Medalนั้นเป็นรางวัลที่คนญี่ปุ่นให้ความนับถือกันว่ายิ่งใหญ่และการคว้ามาได้นั้นมีความยากมากกว่าการได้มิชลิน3ดาวเสียอีกซูชิซูกิตะจึงเป็นอีกร้านที่จองยากอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยทีเดียวSushi Ichizuนั้นจึงเรียกได้ว่าได้สืบทอดวัฒธรรมดั้งเดิมในการปั้นซูชิแบบเอโดเมะ (Edo-mae)มาจากทั้งสองสายคือ1.Hachiro Mitzutaniแห่ง ร้านซูชิมิชลิน3ดาวSushi Mizutaniและ สุดยอดเทพซูชิพรสวรรค์แห่งญี่ปุ่นยุคปัจจุบันTakaaki Sugitaแห่งSushiSugita
ร้านSushi Ichizu
ได้เกิดจากความชอบและความสนใจในการทานOmakaseและศาสตร์ของซูชิของหุ้นส่วนใหญ่ของร้านทั้ง2ท่าน คือ คุณวิชเรศ บุญจิตต์พิมล (อะตอม) และ คุณกชมน ตุลาธรรมธร(หยก) ทำให้เกิดแรงบันดาลใจต้องการอยากยกระดับวงการซูชิในประเทศไทยให้เทียบเท่าญี่ปุ่น จึงชักชวนเพื่อนๆที่มีความรู้และความสนใจในด้านเดียวกันไปติดต่อชักชวน เชฟRikuTodaจากร้านซูชิระดับมิชลิน และTabelog Goldคือร้านSushi Sugitaจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อมาร่วมงานกัน และจึงกำเนิดมาเป็นร้านSushi Ichizuในปัจจุบัน
คุณผู้อ่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Sushi Ichizu :Sukhumvit 39 Bangkok ,Thailand
Omakase Course :8,000++
Nigiri Course :4,000++
Open: Tue-Sun 17.30and 20.30
065-738-9999
www.sushiichizu.com
Fb : Sushi Ichizu , Ig: ichizubangkok