เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ กรรมการชมรมแพทย์ชนบท และผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จะนะ จ.สงขลา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ยาฯ ว่า "APOTHEKE ของบ้านเขา กับ พ.ร.บ.ยา เพื่อเจ้าสัวของบ้านเรา สวิสเซอร์แลนด์ฝั่งตอนเหนือร้านขายยาจะมีป้าย Apotheke แต่ตอนใต้ที่ติดอิตาลีป้ายจะเขียนว่า Farmacia ระบบยาและร้านขายยาที่นี่มีหัวใจที่การคุ้มครองผู้บริโภคและตรวจสอบกันเองระหว่างวิชาชีพ
ในยุโรปรวมทั้งอารยะประเทศ ร้านขายยาต้องมีเภสัชกรเต็มเวลาเท่านั้น จะให้คนอื่นวิชาชีพอื่นมาขายยาแทนไม่ได้ เภสัชกรก็จะจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์เท่านั้นด้วย จะหยิบยาขายยาเองไม่ได้ ยกเว้นกลุ่มยาสามัญประจำบ้าน นั่นแปลว่า เวลาไปหาหมอที่คลินิก หมอจะไม่มีสิทธิจ่ายยา หมอจะตรวจ วินิจฉัยโรค และเขียนใบสั่งยาให้คนไข้มารับยาตามสิทธิสวัสดิการหรือมาซื้อยาเกินสิทธิที่ร้านเภสัชกร แต่สำหรับผู้ป่วยในที่นอนโรงพยาบาลนั้น ไม่มีปัญหา เพราะมีระบบตรวจสอบ และช่วยกันดูแลผู้ป่วยของสหวิชาชีพอยู่แล้ว
การจัดระบบร้านขายยาแบบนี้ เน้นการคุ้มครองผู้บริโภค หากแพทย์จะจ่ายยาแบบไม่สมเหตุสมผล เภสัชกรที่ร้านขายยาก็จะเห็น เภสัชจะจ่ายยาเองก็ไม่ได้ พยาบาลนั้นไปเยี่ยมบ้านหรือทำการพยาบาลที่บ้านก็แนะนำการกินยาให้ถูกต้อง คนไข้จะไปซื้อยากินเองก็ไม่ได้ เพราะยาไม่ใช่ขนม นี่เป็นการแบ่งหน้าที่ที่ลงตัวกลับมามองประเทศไทย เรื่อง พ.ร.บ.ยาที่กำลังร้อน เพราะมีแนวโน้มที่แก้ พ.ร.บ.ยา เพื่อเอื้อเจ้าสัว คือให้วิชาชีพทางสุขภาพอื่นๆ สามารถจ่ายยาได้ นั่นหมายความว่า ในร้านสะดวกซื้อที่กำลังขยายให้มีมุมเภสัชกรขายยาทุกมุมเมือง จะสามารถเปิดกว้างให้เจ้าสัวจ้างแพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ จะลามถึงนักวิชาการสาธารณสุขด้วยไหมก็ไม่รู้ ให้สามารถมารับจ็อบขายยาที่ร้านเจ้าสัวได้ แน่นอนว่าเป้าหมายของร้านเจ้าสัวคือ กำไรสูงสุด จ้างค่าแรงคนขายยาในราคาถูกที่สุด ส่วนการคุ้มครองและความปลอดภัยของผู้บริโภคเอาไว้ทีหลัง
มันเป็นเรื่องตลก ที่บ้านเราลงมือแก้กฎหมายเพื่อเจ้าสัวกันเลยทีเดียว เพราะค่าแรงเภสัชนั้นจะทำให้มีกำไรที่น้อยเกินไป หากแก้ พ.ร.บ.ยาสำเร็จ ทิศทางระบบร้านขายยาของบ้านเราก็กำลังถอยหลังลงเหวไปเลย แทนที่แก้กฏหมายแล้วระบบจะก้าวไปข้างหน้า ค่อยๆไปสู่ระบบแบ่งแยกหน้าที่ดั่งเช่นในอารยะประเทศ
อนาถหนอประเทศไทย "ซื้อยาแล้วจะรับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มสักลูกไหมครับ" ยานะครับไม่ใช่ขนม"