svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ยัน กม.จราจรใหม่ ตำรวจไม่มีอำนาจคิดค่าปรับ

24 สิงหาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมขนส่งทางบก แจงแก้ไขกฎหมายจราจร 2ฉบับ หวังลดอุบัติเหตุ ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ยืนยัน กฎหมายใหม่ การเพิ่มโทษผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบขับขี่ เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ตำรวจไม่มีอำนาจคิดค่าปรับ เป็นอำนาจของศาล

ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก แถลงกรณีร่างกฎหมายจราจรเพิ่มโทษกับไม่มีใบอนุญาตขับขี่


ยัน กม.จราจรใหม่ ตำรวจไม่มีอำนาจคิดค่าปรับ




โดย รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก บอกว่า การเพิ่มโทษผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบขับขี่ เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ว่า การปรับแก้กฎหมายครั้งนี้เป็นการรวมกฎหมายเก่า 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ซึ่งมีความล้าสมัยเข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งกฎหมายเดิมก็มีการกำหนดอัตราโทษสูงอยู่แล้ว คล้ายกับในต่างประเทศก็มีการปรับเงินในอัตราสูง และมีการตัดแต้มความประพฤติ ยึดรถ หรือจำคุกร่วมด้วย ประกอบกับจากข้อมูลสถิติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน และศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย พบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ที่ไม่มีใบขับขี่ คาดว่ามียอดสูงถึง 8 ล้านคน / และเยาวชนไทย เริ่มขับขี่รถจัดรยานยนต์เฉลี่ยที่อายุ 9 ปี โดนเรียนรู้มาจากคนใกล้ชิดและครอบครัว แต่ไม่ได้รับความรู้ ทักษะการขับขี่อย่างถูกต้อง / ซึ่งจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พบว่าผู้ขับขี่กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใบขับขี่ และมีโอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่มีใบขับขี่ 2 เท่า ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 24 ปี / แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ไม่มีใบขับขี่ แต่มาขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูงขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องปรับแก้กฎหมายเรื่องใบขับขี่ให้เหมาะสม ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เสริมสร้างวินัยจราจร โดยยึดหลักเกณฑ์ "ออกยาก ยึดง่าย"


ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าว อยู่ระหว่างเสนอให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอเข้าสภานิติบัญญัติพิจารณา โดยทางคณะกรรมการจะรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนในสื่อโซเชียลเสนอแนบท้ายร่างกฎหมายให้ที่ประชุมพิจารณาด้วย และหากมีการประกาศใช้ลงราชกิจจานุเบกษา ก็จะมีเวลาประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้กับประชาชน 1 ปี ก่อนจะบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด


ด้านพลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ระบุว่า ภายหลังจากที่กฎหมายประกาศใช้ การเพิ่มบทลงโทษจะทำให้ข้อหาไม่มีใบอนุญาติขับขี่ิไม่ใช่ความผิดลหุโทษอีกต่อไป ตำรวจจะไม่มีอำนาจพิจารณาเปรียบเทียบปรับเหมือนเดิม แต่จะต้องสรุปสำนวนฟ้องศาล และให้ศาลเป็นผู้พิจารณาบทลงโทษ โดยหากกระทำผิดซ้ำเดิมบ่อยครั้ง แสดงเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจก็จะระบุลงในสำนวนด้วย / ทั้งนี้ยอมรับว่า กฎหมายเดิมที่ให้ตำรวจเปรียบเทียบปรับมาตลอด 39 ปีนั้นไม่ได้ผล สถิติของผู้ที่ไม่มีใบขับขี่สูงขึ้น สถิติอุบัติเหตุสูงขึ้น เพราะผู้ขับขี่เพียงมาจ่ายค่าปรับกับตำรวจ แล้วก็กลับไปขับขี่ต่อ ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ได้แก้ปัญหาจริงจัง


ยัน กม.จราจรใหม่ ตำรวจไม่มีอำนาจคิดค่าปรับ




ส่วนประเด็นที่ประชาชนกังวลว่าการเพิ่มโทษปรับ จะเป็นช่องให้ตำรวจเรียกรับผลประโยชน์หรือเกิดการทุจริตนั้น ตามกฎหมายใหม่ตำรวจไม่มีอำนาจปรับ แต่หากว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์หรือทุจริต สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีการปกป้อง และจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด


ด้านพันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องแสดงใบหน้าที่ชัดเจน ห้ามใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า เด็ดขาด โดนคำสั่งดังกล่าวเริ่มตั้งปต่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อลดข้อครหาว่าเป็น เจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ แต่สำสั่งดังกล้าวได้ ผ่อนผันให้กับเจ้าหน้าที่จราจรที่ต้องใส่หน้ากาดกันควันพิษได้ แต่เมื่อแสดงตัวต้องถอดออก เช่นเรียกตรวจ ทั้งนี้รวมถึงแว่นดำแและหมวกคุ้มหน้าเด็ดขาด ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นมห้ส่งภาพและคลิปร้องเรียนมายังสำนักงานตำรวจแห่งลชาติ

logoline