svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

วันนี้ในอดีต : จำคุก 20 ปี มือสังหาร จอห์น เลนนอน

24 สิงหาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มีแต่ปีศาจเท่านั้นที่รู้ว่า "มาร์ก แชปแมน" จะทำอะไร เพราะตามประวัติแล้วเขาหลงใหลใน "จอห์น เลนนอน" - "เดอะ บีทเทิลส์" และงานเพลงของพวกเขาเป็นอย่างมาก...

ทั้งรักทั้งเกลียด...น่าจะเป็นคือชนวนหลัก ที่เป็นเหตุจูงใจ ของเดวิด แชปแมน หรือชื่อเต็มของเขาคือ มาร์ก เดวิด แชปแมน ให้ลงมือสัหาร "จอห์น เลนนอน" หนึ่งใน 4 เต่าทอง "เดอะ บีเทิลส์" ชื่อก้องโลกแห่งยุค เสียชีวิตในวัย 40 ปี


ทั้งนี้ หลังจากทูตมรณะของเขา ได้ซัลโวจอห์น ไป 5 นัด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2523 บริเวณด้านนอกของอาคาร อพาร์ตเมนต์ เดอะดาโคตา ในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่พักของเลนนอนเอง



วันนี้ในอดีต : จำคุก 20 ปี มือสังหาร จอห์น เลนนอน

ภาพสุดท้ายก่อนที่จอหน์จะเสียชีวิต (https://en.wikipedia.org/wiki/Mark_David_Chapman#/media/File:John_Lennon_portrait.jpg)

เขาได้รอคอยให้เจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวเขา โดยนั่งอ่านนวนิยายเรื่อง เดอะแคตเชอร์อินเดอะราย ของ เจ. ดี. ซาลินเจอร์ จนกระทั่งตำรวจมาถึงและจับกุม แชปแมนกล่าวซ้ำๆ ว่าหนังสือเล่มนั้นคือแถลงการณ์ของเขา



ที่สุด เขาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผ่านมาจนเกือบปี วันที่ 24 ส.ค.2524 หรือวันนี้เมื่อ 37 ปีก่อน เขาก็โดนตัดสินโทษจำคุก 20 ปี ถึงตลอดชีวิต โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเข้ารับการรักษาสุขภาพทางจิต



บางคนอาจลืมชายคนนี้ บางคนอาจคิดว่าเขาตายไปแล้ว บางคนก็คิดว่าเขาพ้นโทษออกมามีอิสระ เป็นชายสูงวัยคนหนึ่งบนท้องถนน



แต่อีกหลายคนที่ไม่เคยลืมว่า มาร์ค แชปแมน วัย63 ปีในปัจจุบัน ยังคงอยู่ในคุก เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามที่จะยื่นคำร้องขอทัณฑ์บน ที่มีขึ้นทุกๆ สองปี แต่เขาก็ได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง โดยช่วงปี 2559 ความพยายามครั้งที่ 9 ของเขา ยังคงถูกปฏิเสธ



วันนี้ในอดีต : จำคุก 20 ปี มือสังหาร จอห์น เลนนอน

แชปแมนในวัย 62 (http://pdxretro.com/2017/12/past-world-news-headlines-17/)


ล่าสุด ช่วงไม่กี่วันมานี้ เมื่อวนมาบรรจบครบปี 2 ปี ข่าวว่า แชปแมน เตรียมยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อขออภัยโทษเป็นครั้งที่ 10 ภายในเดือน ส.ค.นี้ แต่ข่าวยังรายงานว่า บรรดาแฟนเพลงของ จอห์น ก็ออกมารวมตัว เพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการที่พิจารณาด้านการอภัยโทษ อย่าใจอ่อน เพราะหวั่นเกรงว่าเขาจะกลับมาสร้างปัญหาในสังคมอีก



แต่เหตุผลนี้ ยังไม่สาแก่ใจแฟนเพลงบางคน

แซลลี่ ธอมป์สัน หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ประเมินคำร้องของแชปแมน ได้ให้เหตุผลในการปฏิเสธคำร้องของแชปแมนว่า



"ถึงแม้คุณจะมีความพยายามทำตัวในทิศทางบวก ระหว่างที่ถูกจำคุก แต่การปล่อยตัวคุณไปในตอนนี้ จะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกฏหมาย และไม่เห็นค่าของชีวิตที่สูญเสียอย่างน่าเศร้า ซึ่งคุณเป็นต้นเหตุ และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้าย, รุนแรง, เลือดเย็น ดยที่ไม่ได้มีความโกรธเคืองมาก่อน และเป็นอาชญากรรมที่สามารถมองเห็นผลได้ล่วงหน้า"

ถึงตรงนี้หลายคนอาจอยากย้อนรอยว่า วันนั้นแชปแมนคิดอะไร แล้วที่ว่าทั้งรักทั้งเกลียดนั้น มันคืออะไรกันแน่

ข้อมูลจากเฟซบุคแฟนเพจ "สารคดี สถาพรบุ๊คส์" เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของ "จอห์น เลนนอน" หลังจากที่นักร้องดังหยุดงานเพลงมาแล้ว 5 ปี เพื่อทำหน้าที่พ่อของลูกชายของเขากับ โยโกะ โอะโนะ ชื่อว่า "ฌอน" ที่สุดช่วงปี 2523จอห์น ตัดสินใจกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง เปิดอัลบั้ม Double Fantasy

แต่แล้ว ใครจะคาดคิดว่า ในวันที่อากาศสดใสมากวันหนึ่ง ซึ่งจอห์น ก็มีกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ เช่น หลังจากที่ตัดผมแล้ว เขาก็ไปให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ RKO Radio Special เรื่องการคืนสู่วงการ และการทำงานในอัลบั้ม จากนั้นไปถ่ายแบบร่วมกับภรรยาให้แก่นิตยสาร The Rolling Stone

ช่วงเย็น จอห์นและภรรยา โยโกะ โอโนะ กำลังเดินทางจากอพาร์ตเมนต์ดาโคตา เพื่ออัดเพลง Walking On Thin Ice ได้มีแฟนเพลงคนหนึ่งนำแผ่นเสียงอัลบั้มล่าสุดของเขาเข้ามาขอลายเซ็น ก่อนที่จะแยกย้ายกัน

วันนี้ในอดีต : จำคุก 20 ปี มือสังหาร จอห์น เลนนอน

ภาพจอห์น ขณะเซ็นต์แผ่นเสียงให้ชายผู้ที่หลังจากนั้น คือ คนคร่าชีวิตของเขาเอง (https://en.wikipedia.org/wiki/Mark_David_Chapman#/media/File:Lennon_and_Chapman.jpg)




ใช่แล้วชายผู้นั้นคือ มาร์ก เดวิด แชปแมน คนที่นาทีนั้น มีแต่ปีศาจเท่านั้นที่รู้ว่าหลังจากนั้นเขาจะทำอะไร เพราะตามประวัติแล้ว แชปแมน หลงใหลใน จอห์น เลนนอน เดอะ บีทเทิลส์ และงานเพลงของพวกเขามาก แต่เหตุใดเขาถึงลงมือกระทำการอย่างเลือดเย็นได้

ที่สุด เมื่อเลนนอนและภรรยากลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ช่วง 4 ทุ่มเศษ แชปแมนก็โผล่มาอีกครั้ง พร้อม .38 ที่ซ่อนไว้ในมือ ก่อนที่จะลั่นไกใส่เขาติดต่อกัน 5 นัด เลนนอนพยายามวิ่งไปขอความช่วยเหลือขณะยังมีสติ แต่กระสุนตัดเข้าที่สำคัญ ทำให้จอห์นเสียเลือดมาก จนมีอาการช็อก และเสียชีวิตในเวลา 23.07 น. ของวันนั้นเอง (8 ธันวาคม2523)

และที่น่าขนลุกคือ หลังเกิดเหตุ แชปแมนยังคงอยู่แถวๆ นั้น อ่าน The Cather in The Rye นวนิยายของ เจ. ดี. ซาลิงเจอร์ ที่เขาซื้อและพกติดตัวมาตั้งแต่เช้า กระทั่งตำรวจมาถึง และจับกุมเขาในข้อหาฆาตกรรม แชปแมนกล่าวว่า




"ส่วนใหญ่ของผมคือ โฮลเดน คอลฟิลด์ (ตัวละครหลักในหนังสือ) แต่ส่วนเล็กๆ ของผมต้องเป็นปิศาจ (Devil) แน่ๆ"

ทำไมเขาถึงต้องกล่าวเช่นนั้น นั่นเพราะมีข้อมูลระบุว่า แชปแมน ผู้มาจากเท็กซัส และเป็นแฟนตัวยงของ เดอะ บีทเทิลส์ ชนิดรักและบูชา โดยเฉพาะ "จอห์น เลนนอน" ที่เหมือนเป็นไอดอล หรือ ฮีโร่ประจำใจ

วันนี้ในอดีต : จำคุก 20 ปี มือสังหาร จอห์น เลนนอน




แต่แล้ว มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้แชปแมนรู้สึกว่า จอห์นทำให้เขาผิดหวังเป็นอันมาก เช่นการที่จอห์น กล่าวว่า "เดอะบีทเทิลส์โด่งดังกว่าพระเยซู" นั่นทำให้ผู้เคร่งสาสนาอย่างแชปแมน โกรธแค้น เช่นเดียวกับการที่ จอห์นพูดว่า "เขาไม่เชื่อในพระเจ้า" และ "ไม่เชื่อในเดอะบีทเทิลส์"ด้วย



ข่าวระบุว่า ส่วนหนึ่งที่อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้แชปแมนตัดสินใจฆ่าจอห์น เลนนอน นั่นคือ เมื่อเขาได้อ่านหนังสือชีวประวัติของนักร้องดัง เรื่อง "John Lennon: One Day at a Time" เขียนโดยแอนโธนี ฟอว์เซ็ตต์



ในนั้น มีเนื้อหาที่จอห์นเทศนาถึงความรักและสันติภาพในเพลง Imagine แต่ชีวิตจริงของจอห์น กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ แชปแมนกล่าวว่า


"เขาบอกให้เราจินตนาการถึงการไม่ครอบครองทรัพย์สมบัติ (imagine no possessions) แต่เขายังมีเงินเป็นล้านๆ ดอลลาร์ มีเรือยอชท์ มีฟาร์ม และบ้านพักตากอากาศ และหัวเราะเยาะใส่คนอย่างผมที่เชื่อคำโกหกคำโตนั้นและจ่ายเงินซื้อแผ่นเสียงเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับเขา" (http://www.wurkon.com/full/researchs/johnlennon/)

ส่วนถามว่า หนังสือ The Cather in The Rye นวนิยายของ เจ. ดี. ซาลิงเจอร์ ที่เขาซื้อและพกติดตัวมาตั้งแต่เช้า ก่อนสงัหารจอนชนห์นั้น คืออะไร

วันนี้ในอดีต : จำคุก 20 ปี มือสังหาร จอห์น เลนนอน

ก็อย่างที่เขาบอกว่า ตัวละครในหนังสือ "โฮลเดน คลอฟิลด์" คือตัวแทนของวัยเด็ก ผู้ต่อต้านความแสแสร้งจอมปลอม ซึ่งสิ่งนี้คือภาพสุดท้ายที่ แชปแมน มองเห็นมันในตัวจอห์น เลนน่อน นั่นเอง

จนเมื่อความผิดหวังถึงขีดสุด ทุกอย่างพรั่งพรูออกมาเป็นกระสุน 5 นัด ตามที่กล่าวไปข้างต้น

////////////



เครดิตข้อมูล

https://en.wikipedia.org/wiki/Mark_David_Chapman

http://www.wurkon.com/full/researchs/johnlennon/

https://blogazine.pub/blogs/parid/post/265

logoline