7 ชีวิตหนีตายข้ามจังหวัด "ขู่ฆ่ายกครัว"

เพื่อขอความช่วยเหลือจาก นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หลังลูกเขย อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นสามีของลูกสาว พ่อของหลานชายหลานสาวฝาแฝด 3 คน และเป็นคนที่มีชื่อเสียงกว้างขวางคนหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.ปากพนัง ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตบตีภรรยา จ่อยิงแต่กระสุนปืนด้าน ข่มขู่ฆ่าลูก พ่อตา แม่ยาย และทุกคน ให้ตายยกครัวมายาวนานหลายปี สาเหตุเพราะติดยาเสพติดอย่างรุนแรงมายาวนาน จนเกิดอาการหลอน และหวาดระแวงคนในครอบครัว สั่งห้ามไม่ยอมให้ทุกคนออกไปธุระนอกบ้านหากไม่จำเป็น เด็กๆ ไม่ได้เรียนพิเศษ ทำให้ทั้งหมดอยู่ในอาการหวาดกลัวและยอมจำนนมาอย่างยาวนาน

จนกระทั่ง เมื่อช่วงบ่าย (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา ลูกเขยลากภรรยาขึ้นรถกลับบ้านระหว่างที่ภรรยาออกไปรับลูกที่โรงเรียน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนตบตี และใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะลากตัวกลับมาทำร้ายร่างกายภายในบ้าน รวมทั้งใช้อาวุธมีดจี้ที่บริเวณคอจนได้รับบาดเจ็บ โชคดีลูกเขยรีบออกไปทำธุระนอกบ้านหลังจากได้รับโทรศัพท์ แต่ก็ข่มขู่ก่อนออกจากบ้านว่า กลับมาจะยิงทิ้งทั้งครอบครัว รอให้ลูกๆ กลับมาพร้อมหน้ากันก่อน ทำให้ทุกคนในครอบครัว นำโดยนายสำเร็จอาศัยจังหวะดังกล่าว รีบพาทุกคนในครอบครัวหนีออกจากบ้านด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว ขณะที่เด็กๆ ก็หนีออกมาทั้งชุดนักเรียน

จากนั้นนายสำเร็จได้พาลูกสาวไปตรวจร่างกายพบบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปากพนัง ในข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แต่จนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับลูกเขย ผู้ก่อเหตุ จากนั้นทั้งหมดก็พากันหลบหนีไปเรื่อยๆ โดยที่เด็กๆ ต้องขาดเรียนมาแล้วเป็นเวลานานนับสัปดาห์ โดยลูกเขยพร้อมพวกได้ใช้ความพยายามติดตามไล่ล่าและส่งข้อความหาลูกๆ เป็นระยะๆ ว่า จะฆ่าทิ้งให้หมด

ล่าสุด เย็นวานนี้ (21 ส.ค.) ตามจนพบแหล่งกบดานของทุกคนในครอบครัว พื้นที่ อ.ปากพนัง ทั้งหมดจึงหนีอีกครั้ง และหนีเข้ามาในจังหวัดตรัง เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจาก นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้สั่งการให้ นายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ ปลัดจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.อ.พิชิต โชติแก้ว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง และนายณัฐวุฒิ สังข์สุข ป้องกันจังหวัดตรัง เร่งหาทางคุ้มครองช่วยเหลือ จากนั้นทางจังหวัดตรังได้เร่งประสานไปยังมณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมนำตัวทั้งหมดไปรับการคุ้มครองที่ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์จังหวัดตรังต่อไป