svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ตกขาว"ไม่ขาว แถม"มีกลิ่น"...ทำอย่างไร เลิกกลุ้ม เช็คเลย ก่อนจะสาย

22 สิงหาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตกขาว อาการตามกลไกที่ปกติของร่างกายที่สาวๆทุกคนต้องเจอ โดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้ประจำเดือน ที่จะมีตกขาวมากขึ้น สาวๆจึงควรสังเกตตกขาวว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ ก่อนจะสายเกินแก้

ตกขาว อาการตามกลไกที่ปกติของร่างกายที่สาวๆทุกคนต้องเจอ โดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้ประจำเดือน ที่จะมีตกขาวมากขึ้น สาวๆจึงควรสังเกตตกขาวว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ ก่อนจะสายเกินแก้

ตกขาว คือ Leucorrhea หรือ Leukorrhea สิ่งคัดหลั่งจากอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ไม่ว่าจะเป็นจากช่องคลอด ปากมดลูก หรือแม้กระทั่งจากตัวมดลูกเอง การเกิดตกขาวอาจเป็นอาการปกติ หรืออาการผิดปกติก็ได้ โดยลักษณะของตกตกขาว คือ Leucorrhea หรือ Leukorrhea สิ่งคัดหลั่งจากอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ไม่ว่าจะเป็นจากช่องคลอด ปากมดลูก

หรือแม้กระทั่งจากตัวมดลูกเอง การเกิดตกขาวอาจเป็นอาการปกติ หรืออาการผิดปกติก็ได้ โดยลักษณะของตกขาวปกติคือ ตกขาวจะมีลักษณะเปลี่ยนแปลงตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย, รอบประจำเดือน โดยขึ้นกับปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจส เตโรน (Progesterone) ลักษณะเป็นเมือกขาว ใส ไม่มีสีหรือเป็นสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น ปริมาณไม่มากและไม่ก่ออาการคันตกขาวปกติจะพบมากได้ในช่วงกลางของรอบประจำเดือนหรือขณะตั้งครรภ์ และจะมีการหลั่งของเมือกในช่องคลอดมากขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ทำไมตกขาว ถึงไม่เป็นสีขาว?
เช็กด่วน!! ตกขาว คุณเป็นสีอะไร1.ตกขาว สีเขียว อาการตกขาวสีเขียว เป็นเพราะว่าช่องคลอดเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดได้จากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโรค เช่น โรคหนองใน เป็นต้น ซึ่งลักษณะของอาการที่สังเกตได้เบื้องต้นก็คือ ตกขาวจะมีลักษณะสีเขียว บางครั้งอาจจะมีสีเหลืองปนเขียว มีกลิ่นเหม็นคาวปลา บางรายอาจจะมีอาการคัน และปวดแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย

2.ตกขาวสีเหลือง อาการตกขาวสีเหลือง อาการตกขาว ที่ถือว่าผิดปกติ พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยจะมีทั้งแบบสีเหลืองเข้ม และแบบสีเหลืองใสๆ ซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุ อาทิ-ติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการตกขาวที่มีสีเหลืองขุ่น มีกลิ่นคาวปลา และคัน-ติดเชื้อจากโรคหนองใน-ติดเชื้อรา-ติดเชื้อไวรัส-ติดเชื้อจากพยาธิในช่องคลอด

สาเหตุเหล่านี้ทำให้เกิดอาการตกขาวที่มีสีเหลืองขุ่น มีกลิ่นคาวปลา และคัน ปวดแสบขณะปัสสาวะ หากเป็นสาเหตุจากเชื้อรา บางรายอาจจะมีอาการคันลามไปถึงบริเวณขาหนีบได้ แต่หากเกิดจากเชื้อไวรัส จะมีตุ่มใสๆ ขนาดเล็ก หากแตกออกก็จะกลายเป็นแผลและแสบคัน

3.ตกขาว สีชมพู พบได้ในหญิงหลังคลอด เนื่องจากการลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก

4.ตกขาว เป็นก้อนหนา อาจเกิดจากการติดเชื้อราจนมีอาการบวม แดง คันบริเวณอวัยวะเพศ เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์

5.ตกขาวเป็นน้ำ ถ้าตกขาวเป็นน้ำไหลโจ๊กหรือเป็นฟอง มักเกิดจากเชื้อปรสิตพยาธิ พวกทริโคโมแนส

----------------------๐ตกขาว มีกลิ่นเหม็น...อันตรายแค่ไหนตกขาวมีกลิ่นเหม็น เป็นภาวะที่พบได้บ่อย เป็นปัญหาหนักอกหนักใจของคุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน แต่รู้หรือไม่ อาการเช่นนี้ ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของจำนวนแบคทีเรียในช่องคลอดการมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำอสุจิซึ่งมีความเป็นด่าง จะไปเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในช่องคลอด ซึ่งปกติมักมีความเป็นกรดสูง โดยฝ่ายชายมักไม่มีความผิดปกติใดๆ

ตกขาวมีกลิ่น เกิดจากอะไร

เมื่อความสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป โดยปกติในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียหลายกลุ่ม กลุ่มดี คือ กลุ่มแลคโตแบซิลไล (Lactobacillus) ซึ่งสร้างสภาวะกรดในช่องคลอด เพื่อควบคุมไม่ให้แบคทีเรียกลุ่มไม่ดี คือกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจนเพิ่มจำนวนขึ้น ภาวะใดก็ตามที่ทำให้แบคทีเรียกลุ่มไม่ดีเพิ่มจำนวนขึ้นก็จะทำให้มีภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้น ต้นเหตุจาก

1.การสวนล้างช่องคลอด รวมถึงการนอนแช่ในอ่างน้ำที่มีฟองสบู่มาก2.ความอับชื้นของชุดชั้นใน

3.การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย (เนื่องจากน้ำอสุจิเป็นด่าง) การมีเลือดประจำเดือน (มีอาการช่วงก่อนมีประจำเดือนและหลังหมดประจำเดือนใหม่ๆ)

4.การใส่ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมน ก็จะเพิ่มโอกาสการมีภาวะนี้ด้วย

๐ดูแลรักษา อย่างไรควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อนว่าเป็นตกขาวจากสาเหตุใด ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง โดยบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยา
แนะนำ : ในกรณีที่พบ หรือสงสัยว่าตกขาวผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไป ไม่ควรรักษาเอง เพราะมาจากหลายสาเหตุ รวมทั้งมักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ที่แพทย์ต้องรักษาทั้งผู้ป่วยและคู่นอนควบคู่กันไป ซึ่งการซื้อยากินเองอาจเป็นสาเหตุให้กลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรังจากเชื้อดื้อยา นอกจากนั้นสาเหตุตกขาวยังอาจเกิดจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย การพบแพทย์ตั้งแต่แรกจะช่วยการวินิจฉัยโรคตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าพบโรคในระยะรุนแรงที่มีอาการมากแล้ว๐ข้อควรปฏิบัติ

-ควรหลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด และการใช้น้ำยาอนามัยล้างเฉพาะที่โดยไม่จำเป็น เพราะช่องคลอดมีความสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำความสะอาดแค่ภายนอกใช้น้ำสะอาดอย่างเดียวและซับให้แห้งก็เพียงพอ

-ควรใช้ถุงยางอนามัยจะช่วยลดการเกิดภาวะนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาของน้ำอสุจิในช่องคลอด เนื่องจากเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นได้

-ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางติดต่อกันทุกวัน เพราะอาจทำให้เกิดความอับชื้น และเป็นที่สะสมของเชื้อโรคได้ถ้าพบว่ามีตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา รวมถึงรับคำแนะนำต่างๆ จากแพทย์ และพยาบาล


นพ.สุระ โฉมแฉล้มสูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพสตรีโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน
ที่มา : คอลัมน์ "ลุงแจ่มดูแลสุขภาพ" หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

logoline