แต่แล้วอยู่ๆ ก็เกิดเรื่องร้าย ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 23 ปีก่อน หรือวันที่ 21 ส.ค.2538เมื่อท่านกบได้ล้มป่วยลงหลังจากทรงเสวยกาแฟถ้วยหนึ่ง ขณะประทับใน "วังอัศวิน" ที่พำนัก และสิ้นชีพพิตักษัยในเวลาต่อมาซึ่งที่สุดทางการสืบสวนสอบสวน จนยังผลให้หม่อมลูกปลาตกเป็นจำเลยในข้อหา"วางยาพิษ"
และแล้วชีวิตดั่งเทพนิยายของเธอก็จบลงแต่เพียงเท่านั้น เมื่อข่าวรายงานว่าหม่อมลูกปลามีแรงจูงใจจากการที่เธอพบรักกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพขายเกาลัดและต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีนี้อยู่หลายปี
สำหรับเรื่องราวของคดีความนั้นมีว่าศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุกหม่อมลูกปลาเป็นเวลา 9 ปี แต่ลดโทษเหลือ 6 ปีเพราะรับสารภาพ
ต่อมาในชั้นอุทธรณ์มีว่าศาลพิพากษากลับให้ยกฟ้อง เพราะไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอแต่แล้วต่อมาวันที่17 ส.ค.2555ศาลฎีกากลับคำพิพากษาอีกครั้ง!!
หม่อมลูกปลาเจอโทษคุก7 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือ 4 ปี 8 เดือน
จนกระทั่งวันที่ 10 ก.ค.2558 หม่อมลูกปลาได้รับอิสระภาพพ้นโทษออกมาแล้ว หลังจากติดคุกไปเป็นเวลาเกือบ 2 ปี 7 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.2555 ซึ่งจริง ๆ แล้วศาลฎีกาได้พิพากษาให้จำคุก 4 ปี 8 เดือน ต้องพ้นโทษวันที่ 6 เมษายน 2560 แต่หลังจากปรับตัวเองอยู่ 2 ปี 6 เดือน ก็ได้ทำพักโทษพิเศษ จึงได้ออกมาก่อน
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่ามุมหนึ่ง แม้ว่าหม่อมลูกปลาจะกลายเป็น นางสาว"ชลาศัย ขวัญฐิติ" ผู้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจากหม่อม มาเป็นนางสาว และเปลี่ยนชื่ออีกหลายครั้งมาเป็น"คูณมาศ ขวัญฐิติ"และ "โชติกา ขวัญฐิติ"และใช้ชีวิตเฉกเช่นสามัญชนทั่วไป อยู่นอกรั้วของวังอัศวินอันโอ่อ่าสุขสบาย
ซึ่งช่วงหนึ่งสื่อมวลชนไทยพากันไปสัมภาษณ์เธอ นำเสนอชีวิตที่พลิกผันจากฟ้าสู่ดิน เพราะเธอนั้นต้องมาทำงานเป็นคนทำความสะอาดบนรถบัส ที่คอย รับ-ส่ง พนักงานโรงงาน ไม่เหลือเค้าของความเป็น เจ้าหญิง แห่งวังอัศวินมาก่อน
แต่คนไทยไม่น้อย ก็ยังไม่ลืมเรื่องราวอันสุดแสนดราม่า ที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของ "ชลาศัย ขวัญฐิติ" ในวันที่เธอมีชื่อว่า "หม่อมชลาศัย ยุคล ณ อยุธยา" ผู้มีชื่อแต่แรกเกิดว่า "นิภาพร รอดอ่อน" หรือ "หม่อมลูกปลา"อดีตหม่อมในหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล หรือ ท่านกบ
ขอบคุณภาพจาก ThaiPBS
วันนี้ในอดีต จึงขอนำเรื่องราวอันแสนหวาน เศร้า เคล้าน้ำตา มาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง
นิภาพร รอดอ่อนเกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2515 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นลูกกำพร้า เพราะถูกแม่คลอดแล้วทิ้ง
บุญไหนจะเปรียบ ปรากฏว่าหม่อมเจ้าหญิงรังษีนภดล ยุคล เจ้าน้องในหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ มาพบเข้าจึงได้นำตัวไปอุปการะที่วังอัศวินโดยเบื้องต้นได้เลี้ยงดูไว้ในฐานะของเด็กในบ้านคอยช่วยเหลืองานต่างๆโดยให้ชื่อเล่นว่า "ลูกปลา"
จนกระทั่ง เมื่อเธอเติบโตเป็นสาวรุ่น ลูกปลาได้ดูแลบุตรทั้งสามของหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล อย่างดี ท่านกบจึงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็น "ชลาศัย ขวัญฐิติ"
โดยนามสกุลนำมาจากสองคำในพระนามของท่านกบคือ "ฐิติ" รวมกันแล้วมีความหมายว่า "ที่รักของฐิติพันธุ์" และความสัมพันธ์ก็ได้ดำเนินควบคู่กันมา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 ลูกปลาได้เสกสมรสกับหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ผู้คนพากันเปรียบเปรยว่า เธอเป็น "ซินเดอเรลลาเมืองไทย" โดยแท้!
แต่ครั้งหนึ่ง หลังจากที่หม่อมลูกปลาติดคดี เธอเคยเล่าว่าสาเหตุแห่งการแต่งงานครั้งนี้ เพราะ "ท่านกบต้องการเอาชนะตนโดยไม่ให้ตนหนีเที่ยวอีก ส่วนตนก็เพื่อต้องการเอาชนะหม่อมคนอื่น ๆ ที่คอยว่าตนและการแต่งงานครั้งนี้ก็ไม่ได้มาจากความรักเลย"
ซึ่งก็ตรงกับอีกหลายครั้งที่เธอเคยเล่าว่า ตนเองนั้นกำลังคบหาอยู่กับ "อุเทศ ชุปวา" (พ่อค้าเกาลัคที่เยาวราช) จึงได้หนีออกจากวังมาพบปะกับนายอุเทศอยู่บ่อยครั้ง
แต่แล้ว ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2538 หม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ได้ถึงแก่ชีพิตักษัยอย่างกะทันหัน หลังจากล้มป่วยลงเมื่อ7 วันก่อน!!
เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยว่า หม่อมลูกปลาเป็นผู้วางยาพิษในกาแฟร่วมกับแฟนหนุ่ม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ได้เสวยกาแฟที่มีการผสมยาฆ่าแมลงกลุ่มคาร์บอเมท โดยวันนั้นหม่อมลูกปลาอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เธอได้ปฏิเสธการรู้เห็นในเรื่องนี้ ส่วนอุเทศนั้น ได้ถูกจับในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาลด้วย
ต่อมา เมื่ออุเทศ ได้รับอิสรภาพ ชลาศัยได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันและเปลี่ยนนามสกุลเป็น "ชุปวา" ตามนามสกุลของสามี และย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีชีวิตอย่างยากลำบาก
ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน ประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว และขึ้นล่องระหว่างจังหวัดนครสวรรค์-ปทุมธานี-ร้อยเอ็ด และกรุงเทพมหานคร สลับกันไป โดยค้าขายและขายส้มตำ ไก่ย่าง พร้อมกันด้วย
ระหว่างที่คดีดำเนินไป ระหว่างนั้น หม่อมลูกปลาก็เหมือนจะเงียบหายไปจากสังคม จนกระทั่งช่วงปี 2550 เธอมีข่าวหอบลูกขึ้นโรงพัก
โดยในวันนั้น เธอมาในชื่อ "คูณมาศ ขวัญฐิติ" ที่ต้องพบว่าอุเทศ ชุบวา สามีของเธอเองพร้อมกับเพื่อนร่วมก๊วนอีกหลายคน ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 11 เม็ด อุปกรณ์ในการเสพจำนวนหนึ่ง
มากไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเรื่องราวรักแท้นอกวัง ก็มีอันต้องจบลงเมื่อหม่อมลูกปลาจับได้ว่าสามีของเธอแอบมีกิ๊ก
กระทั่งช่วงหนึ่ง คนไทยได้ยินข่าวว่าเธอได้เปิดร้านเสริมสวยเล็กๆในหมู่บ้านราชพฤกษ์ รังสิตคลอง 3 เป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด 18 ตารางวา ซึ่งทายาทของท่านชายกบซื้อให้ โดยมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านร่วมกับตน โดยระบุว่าห้ามขาย ให้ใช้อยู่อาศัยเท่านั้น ขณะที่ต่อมาเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับ ทวีชัย น้อยประเสริฐ
ก็นับว่าเป็นข่าวดีที่คนไทยหลายคนรู้สึกใจชื้นจนกระทั่ง ช่วงปี 2555 หม่อมลูกปลา ต้องมาเจอคำพิพากษาสุดท้ายให้ติดคุกไปตามที่เกริ่นไว้ข้างต้น
ครอบครัวเหมือนจะแหลกสลาย เพราะบุตรชายสองคนแรก ฝ่ายชาย หรือ "อุเทศ" ผู้พ่อมารับไปเลี้ยง ส่วนเธอต้องก้มหน้าเข้าคุกทั้งๆ ที่ท้องราว 3 เดือนกับ "ทวีชัย" สามีคนปัจจุบัน
หม่อมลูกปลาคลอดลูกสาวในคุกวันที่ 28 ก.พ.2556 เลี้ยงลูกอยู่ในคุกจนขวบกว่า ช่วงปี 2559 ก็จำต้องให้เด็กออกมาอยู่ในความดูแลของผู้พ่อ
กระทั่งลูกปลา หรือ "โชติกา ขวัญฐิติ"ได้ออกมาสู่สังคมในที่สุดช่วงปี 2558 จากการพักโทษพิเศษ ในโครงการวันพ่อปี 2557กลับคืนสู่ครอบครัวของเธอในปัจจุบัน!
ส่วนความจริงที่เกิดขึ้นในวังอัศวินของวันนี้เมื่อ 23 ปี ก่อน น่าแปลกที่ทุกวันนี้เธอยังคงปฏิเสธ ปล่อยให้เป็นปริศนาเดียวบนโลกใบนี้ที่คงไม่มีใครต้องการค้นหา หรือ ขุดคุ้ยอีกแล้ว!
///////////
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย