โดยสุดท้ายระหว่างวันที่ 9 - 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ซึ่งทำหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล งานแผนงบประมาณ - ศึกษาเสนอแนะพัฒนากฎหมาย ที่มีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ก.บ.ศ. และประธานการประชุมสัญจรที่โรงแรมเดอะ ริเวอรร์ บาย กะตะธานี จ.เชียงราย ได้มีมติมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำความตกลงขอใช้ที่ดินจากกรมวิชาการเกษตร บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย และดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป
ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ดำเนินการตามมติ ก.บ.ศ. ส่งหนังสือถึง อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ขอใช้ที่ดินราชพัสดุเพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย
ซึ่งเนื้อหาในหนังสือนั้น ระบุว่า ด้วย สำนักงานศาลยุติธรรม มีแผนจะก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัยใน จ.เชียงราย ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายให้สำนักงานศาลยุติธรรม จัดหาที่ดินเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้าง และได้พิจารณาเห็นว่าที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชร.225 และที่ ชร.1238 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เนื้อที่ประมาณ 42-3-00 ไร่ อยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์ของศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย กรมวิชาการเกษตร มีความเหมาะสมสำหรับก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย
จึงเรียนมา เพื่อขอความอนุเคราะห์ ให้ สำนักงานศาลยุติธรรม ใช้ที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าว เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง จักเป็นที่ขอบคุณยิ่ง ทั้งนี้ ได้จัดส่งแผนผังพื้นที่บริเวณที่ขอใช้เพื่อประกอบการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบประมาณที่จะดำเนินการก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ใหม่ รวมทั้งที่พักตุลาการ - ข้าราชการในสถานที่แห่งใหม่นั้น ก็จะจัดทำเรื่องของบประมาณทั้งหมดใหม่ ซึ่งการขอใช้พื้นที่กรมวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย นั้นจะใช้พื้นที่ประมาณ 40 ไร่เศษ และการก่อสร้างก็จะเน้นอาคารชุดซึ่งประหยัดพื้นที่ โดยระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่รัฐบาลจะพิจารณาให้งบประมาณดำเนินการเมื่อใดด้วย ดังนั้น ระหว่างที่ยังรอดำเนินการก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้ที่ทำการอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 พื้นที่เดิมอยู่ก่อน