ชื่อเสียงไม่สำคัญอีกแล้ว สำหรับ 'บี้-สุกฤษฎิ์' 

บี้หายไปไหนมีคนถามถึงเยอะมาก

"ก็ไม่ได้หายไปไหนก็ทำงานจันทร์, อังคาร, พุธถ่ายละคร พฤหัส,ศุกร์เข้าฟิตเนสบ้าง ทำเพลงบ้าง เสาร์,อาทิตย์ไปวัด ผมเองจะว่างออกอีเว้น แค่พฤหัสกับศุกร์ แต่ถ้าไม่ออกอีเว้น ผมก็จะเข้าฟิตเนสหรือทำเพลงหรือนอนเล่นบ้าง เก็บห้องบ้าง ซักผ้าบ้าง เลยทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน อาจจะเพราะว่าเมื่อก่อนอีเว้นท์ มันเป็นช่วงเสาร์, อาทิตย์ ซึ่งช่วงหลังๆ ผมไม่รับ อีเว้นท์ช่วงเสาร์, อาทิตย์มาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ต้นๆ ปี เพราะว่าช่วงหลังหลังเสาร์,อาทิตย์ ผมทุ่มเทให้กับการไปวัด เป็นสิ่งที่เราคิดไว้เลย เพราะเรารู้สึกว่าไปวัดแล้วใจเรามันสบาย ซึ่งเมื่อใจมันสบายมันทำให้เราต่อสู้กับปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ อย่างสมมุติเวลาเกิดปัญหาในกองถ่ายคนนั้นก็เครียดคนนี้ก็เครียดมีเราหัวเราะอยู่คนเดียวซึ่งมันมีผลแบบนี้หรือถ้าไม่มีปัญหาเกิดขึ้นกับชีวิตใจเราก็ยิ่งสบาย"

แฟนๆ บ่นคิดถึงไหม

"แฟนๆ ก็บ่นคิดถึงแต่เดี๋ยวก็ค่อยๆ มีอีเว้นท์ถ้าเกิดว่าถ่ายละครจบช่วงวันจันทร์อังคารพุธเราก็จะเปิดรับ ถามว่าดูเหมือนจะทุ่มเทให้กับการเข้าวัดปฏิบัติธรรมจะเรียกแบบนั้นก็ได้ก็แบ่งเป็นครึ่งๆ ครึ่งของชีวิตไปอยู่ตรงนั้นอีกครึ่งหนึ่งก็มาอยู่ตรงนี้"

ถามว่าจะมีโอกาสกลับไปบวชไหม

"ยังนะ ไม่บวช เพราะว่าเราปฏิบัติที่ใจมากกว่าเรื่องของเครื่องนุ่งห่มและการโกนหัว"

มันเลยดูเหมือนว่าช่วงนี้ไม่มีงานน้อย

"มันเป็นความตั้งใจของเราที่จะรับงานน้อย เพราะว่าเรารับงานเยอะมาเป็น 10 ปีแล้ว พอเรากลับมามองหน้าพ่อ มองหน้าแม่ มองหน้าคนที่อยู่ข้างๆ เราหลายๆ คนเขาต้องการเวลาจากเรามันไม่ใช่ว่าเราจะหาเงินอย่างเดียวมันทำให้เรารู้สึกว่าเวลาที่จะให้กับคนที่เรารักมันสำคัญกว่าทำให้เราเลือกตรงนั้นดีกว่า"

เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมาพี่ทำงานหนักมากเลยอยากทวงเวลาตรงนั้นคืนใช่ไหม

"จะเรียกแบบนั้นก็ได้เพราะว่า 10 ปีที่ผ่านมางานมาเป็นอันดับหนึ่งเวลาให้กับคนที่เรารักมาเป็นอันดับ 2 แต่ตอนนี้ขอสลับกันเราอยากให้เวลาและความสำคัญกับคนที่เรารักมาเป็นอันดับ 1 งานมาเป็นอันดับ 2 สลับกัน"

ทำไมถึงกลับมามองเรื่องนี้

"เออ...ผมว่าสิ่งต่างๆ รอบตัวมันทำให้เราเห็นนะ ผมมักจะได้เห็นข่าวว่าดาราคนนี้ป่วย คนนั้นนอนโรงพยาบาล เพราะทำงานเยอะ หรือเห็นข่าวว่าดาราคนนั้นไม่มีเวลาให้พ่อคนนี้ไม่มีเวลาให้แม่ โดยมีเหตุผลว่าที่ทำงานหนักแบบนี้เพื่อพ่อแม่ พอผมกลับมามองดูพ่อแม่ของตัวเอง เขากลับต้องการเวลาจากเรา อยากให้เรามาอยู่ตรงนี้มากกว่าการที่เราเอาเงินมาให้เขาหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นคำถามที่เราเอามาหาคำตอบกับตัวเอง พ่อแม่คนอื่นเราไม่รู้ แต่สำหรับพ่อแม่เราเขาต้องการเวลาจากเรามันเลยเป็นคำตอบของเรา"

คุณพ่อคุณแม่บอกกับบี้ด้วยตัวเองหรือเปล่า

"พ่อแม่เราไม่ได้พูด แต่เรามามองดูไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่เราพ่อแม่เรายังไม่เดินตลาดยังกินข้าวเหนียวกินอะไรบ้านๆ เหมือนเดิม แล้วก็ไม่ได้เอาเงินไปทำอะไร เพราะคุณพ่อคุณแม่เราก็เกษียณแล้ว ก็มีทำร้านกาแฟบ้าง ตีกอล์ฟบ้าง แต่ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยอะไร อ้าว...แล้วแบบนี้เราจะหาเงินไปทำไม ซึ่งมันไม่สมดุลกัน คือเราหาเงินเยอะแต่ใช้น้อย เงินที่ได้มา เราเอาไปทำอะไร เราก็เอาไปบริจากมันก็เลยเป็นคำถาม กลับมาว่ามิฉะนั้นเราให้เวลากับพ่อแม่ดีกว่า"

แล้วจะมีโอกาสที่จะกลับมาเป็น "บี้" สุกฤษฎิ์ เมื่อ 10 ปีที่แล้วกับการทำงานเยอะๆ อีกไหม

"ไม่แล้ว ต่อไปจากนี้เราจะไม่เป็นคนที่รับงานเหมือนเมื่อก่อน หรือทำงานเหมือนเมื่อก่อน"

คือยอมสูญเสียสิ่งที่เราเคยสร้างมาทั้งเรื่องของงาน เงินและชื่อเสียง ความเป็นซูเปอร์สตาร์ของเรา

"เราไม่เรียกว่ามันเป็นความสูญเสีย แต่เราเรียกว่ามันเป็นสิ่งที่ได้รับกลับมามากกว่า แต่เป็นการได้รับที่แตกต่างจากเมื่อก่อน เมื่อก่อนเราได้รับเป็นตัวเงิน แต่ตอนนี้เราได้รับความสัมพันธ์และความสุขจากคนที่เรารักและรักเรา มันเลยมีแต่ได้กับได้ โดยที่เราไม่เสียอะไรไปเลย เพราะเราเองก็ไม่ได้สูญเสียเงินของเราไปจากการที่เราเปลี่ยนชีวิตแบบนี้ เพียงแต่ว่าเราเปลี่ยนมาเป็นการให้ความสำคัญให้เวลากับครอบครัวแทนให้กับคนที่เรารัก"

มีเวลามากขึ้นชีวิตตอนนี้โสดไหม

"โสด ถามว่าเพราะเอาเวลาไปเข้าวัดเลยไม่มีเวลาไปหาสาวจริงๆแล้วเราเข้าวัดแค่วันเสาร์อาทิตย์วันอื่นเราก็มีเวลาที่ไปหาแฟนได้แต่ตอนนี้ไม่ได้หา"