บทบรรณาธิการของบอสตัน โกลบ พาดหัวตัวโตว่า "สื่อมวลชนไม่ใช่ศัตรู" และระบุว่า "ในสหรัฐเวลานี้มีประธานาธิบดีที่สร้างคาถาว่า สื่อที่ไม่สนับสนุนนโยบายของรัฐบาล คือ ศัตรูของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในคำโกหกมามายจากปากประธานาธิบดี"
ขณะที่เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ พาดหัวว่า "สื่อเสรีต้องการคุณ" และระบุว่า การโจมตีของทรัมป์เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย
นอกจากนี้เดอะ ฟิลาเดลเฟีย อินไควเรอร์ ระบุว่า "หากสื่อไม่ปลอดภัยจากการแก้แค้น การลงโทษ หรือการตั้งข้อสงสัยในทัศนะหรือข้อมูลที่ไม่นิยมชมชอบ ประเทศและประชาชนก็ไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน"
การเคลื่อนไหวของสื่อเพื่อตอบโต้ทรัมป์มีขึ้นหลังจากทรัมป์มักกล่าวหาสื่อหลักที่รายงานวิจารณ์เขาว่า เป็นพวกข่าวปลอม "Fake news" นอกจากนี้เขาเคยทวีตใน เดือนก.พ.ปีที่แล้วว่า "สำนักข่าวปลอม นิวยอร์กไทมส์ เอ็นบีซีนิวส์ เอบีซี ซีบีเอส ซีเอ็นเอ็น ไม่ใช่ศัตรูของผม แต่เป็นศัตรูของประชาชนอเมริกัน" และมีสถิติว่าทรัมป์ทวีต คำว่า fake news รวม 281 ครั้งแล้ว
เมื่อต้นเดือนนี้เขาก็เพิ่งกล่าวปราศรัยว่า พวกสื่อมวลชนที่มาร่วมฟังเป็นคนน่าสะพรึงกลัว แม้ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นเพิ่งเตือนว่า การพูดจาโจมตีสื่อบ่อยครั้งของทรัมป์จะทำให้ชีวิตของนักข่าวอยู่ในความเสี่ยง
และมีกรณีนักข่าวถูกคุกคามจนเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยบ้างแล้ว เช่น ในการปราศรัยของทรัมป์ที่ฟลอริดาเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้สนับสนุนทรัมป์ตะโกนดูหมิ่นและใช้คำสบถกับนักข่าวที่มารายงานการปราศรัย และเมื่อเดือนม.ค.มีชายคนหนึ่งถูกจับเพราะโทรศัพท์ข่มขู่พนักงานซีเอ็น