ขณะนี้ เคตี้ สตั๊บเบอร์ฟีลด์ กำลังใช้ชีวิตใหม่กับพ่อแม่ที่ดูแลเธออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดตั้งแต่เธอใช้ปืนล่าส้ตว์ของพี่ชายยิงกรอกปากตนเอง เพราะต้องการจบชีวิตเมื่ออายุเพียง 18 ปีหลังจากอกหักอย่างรุนแรง เพราะจับได้ว่าแฟนหนุ่มของเธอกำลังมีผู้หญิงคนอื่น นอกไปจากประสบปัญหาชีวิตในด้านอื่นๆ มารุมล้อมในเวลาเดียวกัน
เรื่องราวของสตั๊บเบอร์ฟีลด์ได้เป็นเรื่องหน้าปกของนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นรายงานถึงการผ่าตัดผ่าตัดสวมใบหน้าซึ่งทำสถิตินานถึง 31 โดยคณะศัลยแพทย์รวม 11 คนจากหลายโรงพยาบาลในสหรัฐ
หลังจากที่เธอหายดีจากการผ่าตัดแล้ว สตั๊บเบอร์ฟีลด์จะได้ทำงานสาธารณกุศลต่อ ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาสำหรับคนต้องการฆ่าตัวตาย ซึ่งเธอได้ใช้เรื่องราวจริงในชีวิตของเธอเองมาเป็นบทเรียนสำคัญในการจูงใจผู้ที่คิดฆ่าตัวตายให้เปลี่ยนใจ รวมถึงการให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยาต่อผู้ที่มีความเครียดสะสมอีกด้วย
สำหรับใบหน้าที่สตั๊บเบอร์ฟีลด์นำมาสวมใบหน้าเดิมของเธอที่เสียโฉมอย่างรุนแรงจนหมดสภาพที่จะผ่าตัดเพื่อแก้ไขได้ ได้รับการบริจาคมาจากครอบครัวของนาง เอเดรีย ชไนเดอร์ คุณแม่ลูกสองวัย 31 ปีที่เสียชีวิตจากการใช้ยา(เสพติด?)เกินขนาด ซึ่งอวัยวะส่วนอื่นๆ ของเธอได้รับการบริจาคโดยสามารถช่วยเหลือชีวิตบุคคลอื่นๆ อีก 7 คน
+++
สตั๊บเบอร์ฟีลด์เป็นบุคคลอันดับที่ 40 ในโลกที่ได้รับการผ่าตัดสวมใบหน้า ที่เธอจะได้รับการหน้าผากใหม่ เปลือกตาใหม่ เบ้าตาใหม่ จมูก ปากและริมฝีปากใหม่ แต่เธอจะยังต้องประสบความบกพร่องทางด้านการมองเห็นและยังต้องเรียนรู้การอ่านภาษาเบรลล์สำหรับคนตาบอดหรือผู้ที่มองไม่เห็น