svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

14 สิงหาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ความไม่โปร่งใสในการใช้เงินงบประมาณ ปี 2562 ยังมีอีกมาก พิจารณาโครงการ การเบิกจ่าย อ้างว่าบริษัทเอกชนเป็นที่ปรึกษา ของสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงพลังงาน

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง



เอื้อประโยน์โครงการเพื่อการขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2562 ต่อคนใกล้ชิด เนินการโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังาน



ตามที่สำนักข่าว อิศรา ได้นำเสนอข่าว ความโปร่งใส เรื่องการประกาศการเปิดรับสมัครโครงการเพื่อการขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.30 นั้น



ในเรื่องการเอื้อประโยชน์คนวง ใน เจ้าเดิม ที่มีข้อสังเกตว่า ออกประกาศเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2561 และให้ยื่นข้อเสนอโครงการตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2561ถึงวันที่ 1 ส.ค. 2561 นั้น หลังจากได้ออกข่าวไปแล้ว



ทำให้มีผลกระทบต่อคนที่ทำงานไม่สุจริต จึงได้ออกประกาศขยายเวลาปิดรับสมัครไปถึง วันที่ 10 สิงหาคม 2561




ซึ่งตามข้อเท็จจริงนั้นการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานบริหารกองทุนเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561เวลา 13.30 น นั้นตามวาระที่ประชุมเป็นการประชุมเรื่องงบประมาณกองทุนประจำปี 2561 (เพิ่มเติม) ในวงเงิน 5,200 ล้านบาทภายใต้กลุ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งในวาระการประชุมไม้ได้มีเรื่องการดำเนินการงบประมาณ 2562 เนื่องจากวงเงินที่ 10,448ล้านบาท เมื่อประธานที่ประชุม ได้เสนอปิดวาระประชุม



นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้ขอเปิดประเด็นได้ขอเสนอให้พิจาณาการดำเนินการงบประมาณประจำปี2562 โดยเสนอว่าจะขอให้นายธนธัช จังพานิช ผู้จัดการสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมอบอำนาจให้นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงพลังงานดำเนินการแทน สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานใช้เงินงบประมาณ62 เพื่อเลี่ยงการผิดกฎหมาย ว่าด้วยเรื่องการบริหารเงินกองทุน จึงแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และได้ปิดประชุม



และใช้เหตุผลว่าสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ไม่มีความพร้อม โดยข้อเท็จจริงสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมีความพร้อมในการดำเนินการ เพราะได้จัดตั้งตั้งแต่ปี2560

ซึ่งยังไม่ได้มีมติที่ประชุม และปิดประชุมโดยทันที และการใช้วงเงินงบประมาณต้องมีการพิจารณาที่รอบคอบ ซึ่งนายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานพยามที่จะเอาวาระการใช้งบประมาณ เข้ามาได้วาระประชุม แต่ทางอนุกรรมการบริหารสำนักงานบริหารกองทุนไม่ได้ให้ใส่ในวาระทีประชุม เพราะต้องดำเนินการ งบประมาณปี 2561ให้แล้วเสร็จก่อน แต่เมือประชุมจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2561นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้ทำหนังสือให้นายธนธัช จังพานิช ผู้จัดการสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานต้องลงนามประกาศ ซึ่งเป็นการส่อเจตนา และบังคับให้ นายธนธัช จังพานิช ผู้จัดการสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานต้องเพราะตามระเบียบว่าด้วยการบริหารเงินกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2560 ตามคำสั่ง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง

ให้คณะอนุกรรมการ มีการดำเนินพิจารณาการดำเนินงานการใช้งบประมาณ การดินการ ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ไม่ใช้หน้าที่ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงานอีกต่อไป

ตั้งแต่ปี 2561 การบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ต้องดำเนินการโดยสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเท่านั้น

เนื่องจากปีงบประมาณ 2562 มีงบประมาณถึง 10,448 ล้านบาททำให้นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานต้องการไปดำเนินการเอง เหมือนเดิม ซึงตามกรอบยุทธ์ศาสตร์ชาติ ได้พยามทำให้เกิดความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล จึงได้ให้จัดตั้งสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้มาดำเนินการแทน แต่เมื่อดำเนินการแล้ว ผู้มีผลประโยชน์ ได้พยามบิดเบือนการทำงาน และพยามแสวงหาผมประโยชน์เหมือนเดิม

ในการดำเนินการของบประมาณปี2562 โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ผ่านระบบ อิเล็กโทนิกนั้น มีการล็อกสเป็กการขอโครงการ เพราะการยื่นโครงการในปีกนี้ต้องยื่นผ่านระบบอิเล็กโทนิก ประเด็นแรก ประกาศแบบฟอร์มในการยื่นขอเป็นผู้ดูแลระบบ และผู้จัดการโครงการ มีการเปลี่ยนแปลงแบบฟอร์มตลอดเวลา แบบฟอร์มด้านในคำขอครั้งที่1 ใช้งบประมาณ61 เมื่อหน่วยงานส่งเอกสาเข้าไป จะมีการแจ้งว่าเอกสารผิด หลังจากนั้นถึงมาเปลี่ยนเป็นฟอร์มเอกสาร 62 และระบบนี้เริ่มดำเนินการใช้ได้จริงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2561ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้น ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมให้หน่วยงานที่ยื่น หน่วยงานที่อยู่ต่างจังหวัดจะประสพปัญหาในการลงระบบ ที่สำคัญในกาลงระบบผ่านทางinternet ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ระบบจะปิดเวลา 16.30 น. ซึ่ระบบนี้จะเหมือนการขอโครงการของหน่วยงานคณะกกรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ) แต่ทางกกพ สามารถยื่นได้ 24 ชั่วโมง และการขอ Username และ Password สามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ

ประเด็นที่ 1


แต่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ต้องยื่นเอกสารให้พิจารณาก่อน แต่ดำเนินการภาตใต้กรอบของสำนักบริการเงินกองทุน เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย และใช้เวลาพิจารณา4-5 วันทำการ

ที่สำคัญ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงานให้บริษัทเอกชนEnergy link เป็นผู้พิจารณาเอกสาร โดยมานั่งทำงานแทนเจ้าหน้าที่ของรัฐ เบอร์ที่โทรเข้าไปประสานใช้เบอร์ของ02-612-1555 ต่อ 203-205

เมื่อโทรไปติดตามเอกสาร เจ้าหน้าที่บริษัทจะใช้วาจาข่มขู่ ไม่ได้แนะนำ จะพูดว่าก็ไม่ต้องของบประมาณ หรือ บอกว่าทำไม่รีบยื่น แต่จะทำให้เฉพาะคนที่ใกล้ชิด ทั้งนี้ว่าด้วยระเบียบการปฏิบัติราชการ บริษัทเอกชนไม่สามารถใช้ทรัพย์สิน หรือ เอื้อประโยชน์ จากทรัพย์สินจากทางราชการได้ ผิดระเบียบ ปปช และ สตง

ประเด็นที่ 2 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ยังไม่มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการใช้เงิน แต่จะใช้การออกประกาศของสำนักบริหารเงินกองทุน เพื่อให้ถูกตองเท่านั้น เพราะสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ก็ขอใช้เงินจากกองทุนปี2562 ไม่น้อยกว่า5,000 ล้านบาท เป็นผู้ขอและอนุมัติเอง ซึ่งแสดงเห็นการทุจริตอย่างชัดเจน แต่ใช้ช่องว่างของระเบียบดำเนินการ โดยพยามบังคับให้สำนักงานบริหารกองทุนเป็นผู้ดำเนินการ แต่โดยข้อเท็จจริง การทำเรื่องต่างทำโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 รองนายกรัฐมนตรี พลอ.อ.ประจินจั่นตอง ได้เรียกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน และ นายธนธัช จังพานิช ผู้จัดการสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เข้าพบ และได้สั่งการให้ย้ายสำนักบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จากตึกสำนักงานนโยบายและแผน มาที่ ตึกกระทรวงพลังงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2562

ความไม่โปร่งใสในการใช้เงินงบประมาณ ปี2562 ยังมีอีกมาก นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน ได้ใช้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ โยกเฉพาะ บริษัท Energy link และยังได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนมา พิจารณาโครงการ การเบิกจ่าย อ้างว่าบริษัทเอกชนเป็นที่ปรึกษา ของสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ต้องดูความเหมาะสมทำไมไม่ใช้เจ้าหน้าที่รัฐ ในการดำเนินการ

ที่มา สนพ Energy link

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

จับพิรุธ! สนพ. หลักฐานเอื้อประโยชน์ ส่อเค้าผู้บริหารหนุนหลัง

logoline