ศาลยุติธรรม ขอใช้ที่ดินศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย สร้างศาล-บ้านพักเเทนพื้นที่เชิงดอยสุเทพ

11 ส.ค.61 นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9-10 ส.ค.ที่ผ่านมา นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานในการประชุม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมสัญจร (กบศ.) ณ โรงแรมเดอะ ริเวอรร์ บาย กะตะธานี จ.เชียงราย โดยที่ประชุม ก.บ.ศ. มีมติว่า มอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำความตกลงขอใช้ที่ดินจากกรมวิชาการเกษตร บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย และดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป และที่ประชุม ก.บ.ศ. มีมติเห็นชอบให้เปิดทำการศาลแขวงเชียงรายในวันที่ 1 เม.ย.62 โดยใช้อาคาร ที่ทำการอําเภอเมืองเชียงรายหลังเก่า ที่ไม่ได้ใช้การแล้ว 


ทั้งนี้ นายสราวุธ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ลงพื้นที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อดูพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 กระทั่งวันที่ 10 ส.ค.จึงได้มีการนำเสนอสถานที่ดังกล่าวให้ที่ประชุม ก.บ.ศ.พิจารณาเห็นชอบสถานที่ดังกล่าว

โดยสถานที่ดังกล่าว หากได้รับการจัดสรรงบประมาณและก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จนแล้วเสร็จ เราก็จะย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จากที่ริมดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ มายังพื้นที่ใหม่นี้ เป็นการย้ายมาทั้งหมดทั้งที่ทำการและที่พักอาศัย

ส่วนเรื่องการคืนพื้นที่เดิมนั้น นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องการคืนพื้นที่จะต้องประสานงานรัฐบาลว่าจะต้องทำยังไง โดยการจะย้ายนั้นจะต้องรอที่ทำการและบ้านพักในพื้นที่ใหม่ดังกล่าวสร้างเสร็จสิ้นเสียก่อน

สำหรับการส่งมอบงานก่อสร้างอาคารที่ทำการและที่พักตุลาการ-ข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น ผู้รับเหมาจะส่งมอบงานงวดสุดท้ายในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ซึ่งหลังจากสำนักงานศาลยุติธรรมรับมอบงานเรียบร้อย ก็จะดำเนินการทำเรื่องเสนอส่งมอบคืนพื้นที่การก่อสร้างนี้ให้กับหน่วยงานเดิมหรือคืนให้กับรัฐบาลอย่างไรก็ขึ้นกับรัฐบาลมีความเห็นชอบต่อไป

ทั้งนี้สำหรับงานประมาณที่จะดำเนินการก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ใหม่ รวมทั้งที่พักตุลาการ-ข้าราชการในสถานที่แห่งใหม่นั้น ก็จะจัดทำเรื่องของบประมาณทั้งหมดใหม่ ซึ่งการขอใช้พื้นที่กรมวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย นั้นจะใช้พื้นที่ประมาณ 40 ไร่เศษ และการก่อสร้างก็จะเน้นอาคารชุดซึ่งประหยัดพื้นที่ โดยระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปีทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่รัฐบาลจะพิจารณาให้งบประมาณดำเนินการเมื่อใดด้วย ดังนั้นระหว่างที่ยังรอดำเนินการก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้ที่ทำการอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 พื้นที่เดิมอยู่ก่อน