พลิกปูม "อ้วน บางลา"

เมื่อ 4 ปีก่อน ครานั้นข่าวเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 เอาจริงเอาจังกับแท็กซี่มาเฟีย ลามไปถึงปราบปรามมาเฟียใหญ่ย่านหาดป่าตอง และปปง.ยุค พ.ต.อ.สีหนาถ ประยูรรัตน์ เป็นเลขาธิการ ร่วมกับดีเอสไอ เอาจริงกับการปราบปรามมาเฟีย นำไปสู่การดำเนินคดีและยึดอายัดทรัพย์ไว้มากมาย


ในยุคนั้น อ้วน บางลา ถือว่า โนเนม มาก ไม่มีชื่อในทำเนียบมาเฟียหรือแม้แต่เจ้าของกิจการ สีขาว หรือ สีเทา ใน ซอยบางลา ซอยที่ไม่มีวันหลับไหล


4 ปีที่แล้ว ผมย่ำเท้ากับทีมข่าวเข้าไปในซอยบางลา ผมได้รับคำเชื้อเชิญ จากเด็กเชียร์แขกทั้งชาย หญิง ตั้งแต่การเข้าไปดูการโชว์ชุดพิเศษ (เป็นที่รู้กัน) เสนอขายหญิงบริการ ที่นั่นมีทุกสิ่งที่นักเที่ยว นักเสพ ต้องการ (ไม่เป็นไรอ้างว่าขายต่างชาติดึงเงินเข้าประเทศ)


แล้วไม่ใครสงสัยหรือว่า จากเด็กบริการนวดในห้องน้ำ จึงมีเงินเปิดผับได้ (ไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน/แห่ง) ไหนจะค่าเคลียร์เส้นทาง เคลียร์ใบอนุญาต อ้วน บางลา มีเงิน มีคอนเนคชั่นมากถึงขั้นนั้นหรือ 


ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ ในอดีตคนภูเก็ต จะเรียกคนอีสานว่า อ้ายลาว (ผมฟังแล้วก็แสนเจ็บใจ) คนอีสานที่ไปทำงานขุดทองที่ภูเก็ต จะโดนกดขี่สารพัดสารพัน จากเด็กบริการในห้องน้ำ ผมจึงไม่เชื่อว่า อ้วน บางลา รวยจริง


เหตุผล ผมต้องย้อนกลับไปที่การทลายมาเพียใหญ่ที่คุมย่านหาดป่าตอง นับเป็นความสำเร็จของภาครัฐ


แต่ผลประโยชน์มหาศาล ทำให้เกิดคลื่นลูกใหม่ และช่างบังเอิญ ที่ อ้วน บางลา ได้รู้จักคลื่นลูกใหม่ กลายเป็นมือเป็นไม้ และเป็น นอมอนี ให้ใช้ชื่อเจ้าของผับมูลค่านับร้อยล้านบาท 


เหตุผลที่สองถ้า อ้วน รวย 100 ล้าน จริง ป่านนี้ทำไม่มีการยึดอายัดบัญชี ผู้ต้องหาคนสำคัญรายนี้ 


ผมยังสงสัยความรวยของ อ้วน บางลา ผิดวิสัยของคนอีสาน ถ้ารวยร้อยล้าน และเงินนั้นเป็นของตัวเองจริง บ้านแม่ที่สุรินทร์ คงไม่ปล่อยให้อยู่ซ่อมซ่ออย่างปัจจุบัน


เหตุผลที่สาม ความที่ อ้วน บางลา โนเนมเกินไปไม่มีวันได้เกิดหากขาดการสนุนจากลูกพี่ของอ้วน และชักนำให้อ้วน รู้จักมักคุ้นกับสื่อท้องถิ่นรายหนึ่ง โดยทั้งคู่มีลูกพี่คนเดียวกัน


การเข้ามาพัวพันคดียิงคนตาย และการย้อนกลับไปเช็คประวัติจึงเห็นสตอรี่ด้านเดียว คือ อ้วนเด็กอีสานผู้มัธยัสถ์ สร้างตัวด้วยลำแข้ง นั่นเพราะมีคนต้องการเบี่ยงให้ออกไปในทางนั้น 


การเป็นเจ้าของผับเถื่อน ดูเหมือนมีคนต้องการตัดตอน ไม่ขยายผลต่อ ทำไม เพราะไม่มีใครอยากเดือดร้อน ซึ่งถ้าหากเอาจริงเอาจังตรวจสอบย้อนหลังความจริงอีกด้านจะปรากฎ และผมยังเชื่อมือผู้บังคับการตำรวจภูเก็ต เพื่อน นรต.36 กับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ถ้าท่านผู้การภูเก็ต ทำจริง สังคมไทยจะได้เห็นอีกมุมของคดี และการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ


ผมอดใจหายไม่ได้ที่ผบ.ตร. ชิงประกาศว่า อ้วน บางลา มี 2 ทางคือทางตัน กับทางตาย ผมอยากให้ อ้วน บางลา มีชีวิตอยู่เพื่อพูดความจริง ย้ำเพื่อพูดความจริง 


เพราะคนตายพูดความจริง ไม่ได้