ตำรวจเตรียมเเจ้งข้อหาผู้รับเหมา ทำแท่งเจาะหล่นทับรถเบนซ์(มีคลิป)

โดยทางบริษัทยินยอมชดใช้ความเสียหายในสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะซื้อรถคันใหม่ให้ ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายเองว่า จะให้ซื้อรุ่นเดิม หรือ รุ่นใหม่ ส่วนค่าสินไหมทดแทน เพื่อชดเชย ที่ทำให้ น.ส.ปนัดดา อัครดำรงเดช อายุ 35 ปี และเพื่อนที่นั่งมาด้วยกันได้รับบาดเจ็บ และเกิดความหวาดกลัว ทางพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ จะนัดมาเจรจาอีกครั้ง และจะเชิญทางบริษัทก่อสร้าง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มารับทราบข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาท ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายต่อไป

ทางด้าน น.ส.ณัฏฐจิรา จันทนะคีรี อายุ 33 ปี เจ้าของรถซึ่งรอดตายหวุดหวิด บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนขอเดินสายทำบุญไหว้พระ เพื่อให้จิตใจสบายขึ้น หลังรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาอย่างหวุดหวิด ส่วน น.ส.ปนัดดา อัครดำรงเดช อายุ 35 ปี เพื่อนตนที่นั่งมาคู่กันนั้น ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ธนุบรี 1 โดยมีอาการถูกคอนโซลรถทับที่ขาทั้ง 2 ข้าง และข้อมือขวาบาดเจ็บ จากการถูกถุงลมนิรภัยกระแทกโดยรวมปลอดภัยดีแล้ว ซึ่งจะนัดหมายกันเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ ไม่วันที่ 18 ส.ค. ก็วันที่ 25 ส.ค. โดยตนยังไม่ตัดสินใจว่าจะรับสินไหมชดเชยจากผู้รับเหมาในรูปแบบใด ทั้งรถคันใหม่หรือเงินสด ขอเวลาปรึกษาญาติพี่น้องและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสักระยะ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุสัมภาษณ์ นายสุพัฒน์ กาบขุนทด อายุ 56 ปี ผู้ขับขี่ รถ จยย.รับจ้างวินเลียบทางรถไฟบางขุนนนท์ เล่าว่า วานนี้ก่อนเกิดเหตุเห็นรถเครนกำลังยกแท่งเหล็กขุดเจาะท่อกันดินทลาย เพื่อจะนำไปประกอบเข้ากับปั้นจั่น โดยแขนเครนนั้นพาดผ่านถนนไปอย่างน่าหวาดเสียว กระทั่งแท่งเหล็กหลุดจากสลิงลงมากระแทกรถผู้เสียหาย จึงรีบวิ่งไปช่วยนำคนขับและผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากตัวรถ ได้อย่างปลอดภัย

"ที่ผ่านมา ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ที่เห็นผู้รับเหมาทำงานแบบนี้ เพราะบ่อยครั้งที่มีการใช้เครนยกวัสดุ อุปกรณ์ขนาดใหญ่ข้ามถนนผ่านไปผ่านมา โดยไม่มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาช่วยทำการปิดการจราจร ซึ่งหลังจากนี้อยากให้นึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติงาน" นายสุพัฒน์ กล่าว