"เงื่อนไขในการช่วยเหลือ คือต้องเป็นลูกหนี้ที่เดือดร้อนจริงและมั่นใจว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ และอยู่ในจังหวัดที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมแล้วเท่านั้น เบื้องต้น มี 2-3 จังหวัดแล้ว คือ จังหวัดสกลนคร นครพนม เพชรบุรี กาญจนบุรี ซึ่งคาดว่าจะมีลูกหนี้ที่เข้าข่ายต้องให้ความช่วยเหลือหลักหมื่นราย "อธิบดีกรมบังคับคดีกล่าว
น.ส.รื่นวดี กล่าวด้วยว่า สำหรับกระบวนการช่วยเหลือนั้น กรมบังคับคดีจะเป็นตัวกลางนัดเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เพื่อผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปตามความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากเจ้าหนี้และสถาบันเจ้าการเงินเจ้าหนี้เป็นอย่างดี. ที่ผ่านมา กรมฯได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือไกล่เกลียหนี้ชั้นบังคับคดีให้กับผู้ประสบอุทกภัย มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดี โดยในปี 2560 ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยหนักในจังหวัดสกลนคร สงขลาสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช สามารถเจรจาไกล่เกลียได้สำเร็จ 451 ราย ทุนทรัพย์ 190 ล้านบาทหรือสำเร็จร้อยละ 87.40 และต้นปี 2561 ซึ่งไกล่เกลียหนี้ ที่จังหวัดปัตตานีและสุราษฎร์ธานี สำเร็จ รวม 433 ราย ทุนทรัพย์ 87 ล้านบาทหรือสำเร็จร้อยละ 88.37 จึงได้ดำเนินการต่อเนื่องมาในรอบนี้
" จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายหลายครั้งที่ผ่านมาจะเห็นว่าประชาชนโดยเฉพาะลูกหนี้ที่อยู่ในชั้นบังคับคดีจะได้รับผลกระทบขาดรายได้และจำเป็นต้องนำเงินไปใช้ในการดำรงชีวิตรวมทั้งซ่อมแซมบ้าน ฟื้นฟูอาชีพ ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดอาจมีระยะเวลา 1-2 เดือน หรือมากกว่านั้นแตกต่างกันไป" อธิบดีกรมบังคับคดีกล่าว