(5 ส.ค.61) ที่ห้องประชุมรายา โรงแรมรอยัล ภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอภิชาติ จีระพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางปฎิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวทางทะเล ตามประกาศกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต
โดยมีนายสนิท ศรีวิหค และนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พล.ร.ต. เจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3,พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 ตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต, การท่องเที่ยวแห่งประเทศ สำนักงานภูเก็ต, เป็นต้น นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม รักษาการนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และผู้ประกอบการนำเที่ยวทางทะเล เข้าร่วม
ทั้งนี้ได้มีการชี้แจงประกาศของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต เรื่อง กำหนดแนวทางในการจัดทำแผนและจัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อประโยชน์ในการควบคุม ดุแล ป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ที่เป็นภัยและที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยและอุบัติเหตุทางทะเลในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรักษาภารกิจการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ความสงบเรียบร้อยความมั่นคงในชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินจากสาธารณภัยทางทะเลหรือทางน้ำให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
โดยเน้นย้ำในเรื่องของท่าเทียบเรือในการท่องเที่ยวซึ่งกำหนดทั้งหมด 24 ท่า ซึ่งจะต้องมีความพร้อมในการรองรับเรือที่จะออกจากท่า, ความพร้อมตัวเรือที่จะต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต และอุปกรณ์อื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด, กัปตันเรือและคนประจำเรือที่จะต้องมีใบประกาศของกรมเจ้าท่าในการปฏิบัติงาน, มัคคุเทศก์ประจำเรือ, การจัดทำบัญชีรายชื่อของนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร เป็นต้น นอกจากนี้ทาง Depa (Digital Economy Promotion Agency - สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล) ยังได้นำเสนอแบบฟอร์มในการจัดทำระบบฐานข้อมูลบริษัทเรือ/บริษัทนำเที่ยว เช่นรายชื่อนักท่องเที่ยวที่จะลงเรือ, เส้นทางเดินทาง เป็นต้น ณ ท่าเทียบเรือ ซึ่งขณะนี้มีการส่งเจ้าหน้าที่ ลงไปตรวจสอบในแต่ละท่าเรือเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจในทะเลด้วย
ขณะที่ผู้ประกอบการต่างเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว และพร้อมที่จะปฏิบัติ แต่มีข้อเสนอว่า การออกมาตรการเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่การจะสร้างความเชื่อมั่นได้นั้นต้องดูการปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะความพร้อมและมาตรฐานของเรือ อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตต่างๆ ที่ได้มาตรฐานและเพียงพอ, การจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ในการดูแลช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุ, การให้ความรู้หรือคำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวก่อนที่จะลงเรือ และประเด็นสุดท้ายเรื่องของการสื่อสารกรณีเกิดเหตุขึ้นใครจะมีอำนาจในการสั่งห้ามเรือไม่ให้ออกจากฝั่ง รวมไปถึงการสื่อสารระหว่างเรือที่อยู่ในทะเลกับเจ้าหน้าที่บนฝั่งกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการเสนอว่า ในมาตรการดูแลความปลอดภัยบนเรือนั้น ในส่วนของมัคคุเทศก์หรือคนประจำเรือจะต้องมีความรู้พื้นฐานในการช่วยชีวิตที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะมีการกำหนดให้อบรมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง, การกำหนดช่องทางผ่านวิทยุสื่อสารที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุ เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีการกำหนดให้ติดตั้งวิทยุสื่อสารแต่เมื่อเกิดเหตุกลับไม่มีการใช้หรือไม่กล้าใช้ จึงทำให้บางครั้งการช่วยเหลือจึงเข้าไปไม่ทัน
นายอภิชาติ จีระพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ว่าเนื่องจากขณะนี้ทางการจีนได้มีการจับตามองถึงมาตรการต่างๆ หลังเกิดเหตุว่าเราได้ดำเนินการอะไรไปบ้างมากน้อยเพียงใด และเร็วๆ นี้ผู้บริหารของทางการจีนก็จะเดินทางมาประเทศไทยดังนั้นเราจำเป็นจะต้องแสดงให้เขาเห็นและมีความเชื่อมั่นว่าเรามีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอย่างไรบ้างซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะเป็นบทเรียนที่ให้เรามาปรับปรุงมาตรการต่างๆ ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
เพราะขณะนี้ผลกระทบไม่ได้เกิดเฉพาะกับจังหวัดภูเก็ตเท่านั้นแต่ยังขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ด้วย จึงจำเป็นที่ต้องภาคส่วนต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการเองจะต้องคำนึงในเรื่องของความปลอดภัยให้มาก โดยประกาศของ กอ.รมน.ภูเก็ต เป็นมาตรการหนึ่งเท่านั้น และคงจะไม่สำเร็จหากผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะในระยะนี้ถือเป็นห้วงที่สำคัญที่เราจะต้องเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคือมา และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางจังหวัดได้กำหนดไว้ แม้ว่าอาจจะมีความยุ่งยากบ้าง แต่เพื่อผลที่เกิดขึ้นในระยะยาว