svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ

30 กรกฎาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ "การรายงานข่าวในสถานการณ์ความรุนแรงและภัยพิบัติ" หรือ Safety Training รุ่นที่ 9 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับสื่อมวลชน

ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ

ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ "การรายงานข่าวในสถานการณ์ความรุนแรงและภัยพิบัติ" หรือ Safety Training รุ่นที่ 9 ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 26 วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จ.สระบุรี
นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื้อหาหลักสูตรของการอบรมครั้งนี้ประกอบด้วย 1.การเตรียมตัวและวางแผนก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานข่าว 2.การเข้าทำข่าวในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติและพื้นที่ความขัดแย้ง 3. การเอาตัวรอด ช่วยชีวิต และการปฐมพยาบาลเชิงยุทธวิธีในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ 4.ภาษาที่ใช้ในการรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้งและภัยพิบัติ ไม่ให้เป็นผู้ขยายข้อความเพิ่มความขัดแย้ง หรือ Hate speech รวมทั้งเป็นผู้ตรวจสอบข่าวลือ ข่าวลวง หรือ Fake news ที่กำลังเป็นปัญหาของโลกออนไลน์ในปัจจุบัน

ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ



ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ





นายปราเมศ กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่สื่อมวลชนทุกคน ไม่ว่าจะทำข่าวสายไหน เป็นสื่อประเภทใด จะได้มีโอกาสเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง และเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ ที่มีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก คนที่ไม่เคยทำสนามข่าวภัยพิบัติหรือความขัดแย้งมาเลย หลังจากผ่านการอบรมครั้งนี้จะได้นำบทเรียนที่ได้รับจากการอบรม ไปเป็นด่านทดสอบว่าเมื่อได้รับการอบรมมาแล้ว การทำข่าวดีขึ้นไหม การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม กับกอง บก. เป็นอย่างไร" ซึ่งอยากให้ระลึกไว้เสมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำข่าวไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงหรือภัยพิบัติ คือ นักข่าวต้องปลอดภัยกลับมา และการรายงานข่าว จะต้องไม่ซ้ำเติมสถานการณ์ และไม่เป็นภัยต่อสังคม ซึ่งนี่คือหัวใจของการอบรม Safety Training "

ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ



ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ



ด้านนายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า สำหรับการอบรม Safety Training เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ความรุนแรง จากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 หลังผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ได้มีการจัดงานเติมกำลังใจ ให้กับสื่อมวลชน และรับการยื่นข้อเสนอ 11 ข้อ ให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์จัดหลักสูตรอบรม ให้องค์ความรู้ การทำข่าวในสถานการณ์ความรุนแรง ก่อนที่จะเริ่มมีการอบรมเชิงปฏิบัติการ Safety Training รุ่น 1 ในปี 2553 และจัดต่อเนื่องทุกปี มาจนถึงปัจจุบัน เป็นรุ่นที่ 9 แล้ว มีสื่อมวลชนที่ผ่านการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ Safety Training แล้ว รวมกว่า 300 คน"โดยปีนี้ มีการปรับและพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับสถานการณ์การทำงานของสื่อมวลชนในปัจจุบัน ที่ต้องลงพื้นที่ภัยพิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง จึงมีการเพิ่มหลักสูตรการรายงานข่่าว การเอาตัวรอดในการทำข่าวทางน้ำเพิ่มขึ้นมา เพื่อให้มีทักษะในการรายงานข่าวที่ถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น"




ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ



ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ




ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า สำหรับการอบรมครั้งนี้จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีผู้รับการอบรมเป็นสื่อมวลชนจากหลายสำนักและสื่อหลายแขนง จำนวน 29 คน ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) บมจ. บางจาก บมจ.วิริยะประกันภัย เครือเนชั่น บริษัท แอลเอสเทคโนโลยี จำกัด นอกจากนี้ สมาคมนักข่าวฯ ยังขอขอบคุณทีมกู้ชีพทางน้ำ ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ที่ส่งทีมงานมาร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้าอบรม และสถานีโทรทัศน์ PPTV ช่อง 36 ที่นำเสื้อชูชีพของสถานีมาสนับสนุนการอบรมทางน้ำครั้งนี้ด้วย


ส.นักข่าวจัดอบรม "เซฟตี้เทรนนิ่ง" ปีที่ 9 เพิ่มทักษะทำข่าวความขัดแย้ง-ภัยพิบัติ


logoline