"กฤษฏา" ตัดพ้อ! ทำยางราคาขึ้น 2 โลร้อย ไม่มีใครชม

31 พ.ค.61"กฤษฏา"บ่นน้อยใจทำยางราคาขึ้น 2 โลร้อย ไม่มีใครชมเผยดันราคา 60 บาทได้แน่  รับกยท.ซื้อขายแทรกแซงราคายาง 3 ปีก่อนขาดทุนบาน แต่ไม่ขายโรงงานทิ้ง -ปลดพนักงานออก เร่งตั้งบริษัทมหาชน ผลิตยางแท่งส่งออกแข่งตลาดโลกได้ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกรณีกระแสข่าวการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)กำลังประสบปัญหาขาดทุนอาจขายโรงงานหลายแห่งทิ้ง โดยยอมรับว่าปัญหาขาดทุนจากช่วงก่อนรับซื้อยางราคาสูงกิโลกรัมละเป็น 100 บาท และมาในปี 57 -58 มีการซื้อเพิ่มแต่ราคาไม่ถึง 100 บาท โดยยางล็อตหลังได้ระบายออกไปแล้ว ขณะนี้เหลือยางล็อตเดิม 1.05 แสนตัน ซึ่งเป็นปัญหาขาดทุนสะสมในการเข้าแทรกแซงราคายาง
โดยหน่วยธุรกิจเข้าซื้อขายยาง และมาเจอราคายางลดลงต่ำสุด 30 กว่าบาทต่อกก.ทั้งนี้ภาวะขาดทุนของกยท. ไม่มีผลกระทบกับเงินเดือนพนักงาน  ซึ่งนายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าฯกทย.ได้ยืนยันแล้วว่า ไม่มีผลกระทบเงินเดือนรวมทั้ง ค่าจ้างลูกจ้างกรีดยาง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้งบสนับสนุน มาอีก 2 พันล้านบาท และเก็บไว้หมุนเวียน 1 พันล้านบาท

ขณะนี้ กยท.พบสองแนวทางการบริหารจัดการที่กลับมามีผลกำไรโดยการ จัดตั้งบริษัทมหาชนร่วมทุนยางพาราไทย เข้าหุ้นกับสถาบันเกษตรกร สหกรณ์และบริษัทอื่นได้ ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนขออนุญาตจัดตั้งและนำเข้าครม. ส่วนอีกแนวทางหน่วยธุรกิจ สามารถซื้อขายยางได้เอง ไม่ต้องขออนุมัติครม.ซึ่งกยท. มีโรงผสมน้ำยาง ปั่นยางสดเป็นยางแห้ง สามารถติดต่อเอกชนมาซื้อยางแท่งล็อตใหญ่ส่งขายต่างประเทศได้


วิธีการนี้ทำให้มีกำไรมีเงินหมุนเวียน รักษาการผู้ว่าฯกยท.ได้ประชุมผู้บริหารสหกรณ์ รวบรวมยางมาขาย เพิ่มมูลค่าได้มากกว่าขายยางแผ่นรมควัน รวมทั้งการใช้ยางในประเทศเป้าหมาย 2 แสนตัน ขณะนี้ได้รับซื้อจากเกษตรกรขึ้นเป็นระดับหมื่นตันแล้ว ได้ส่งคณะทำงานจากกระทรวง ลงไปช่วยกยท. ในการประสานหน่วยงานต่าง ๆ มาซื้อยาง ซึ่งกรมชลประทาน  มีงบกลาง 1.3 หมื่นล้านบาท สามารถนำงบส่วนหนึ่งมาซื้อยางไปทำถนนคันคลองใช้ยาง 3 พันกว่าตัน"ผมมั่นใจ กยท.บริหารอยู่ได้ไม่ต้องขายโรงงานทิ้ง ไม่มีโครงการให้พนักงานออก ตอนนี้ราคายางขึ้นมาในระดับ 50 บาทต่อกก.ต่อไปจะได้เห็น60บาทขอให้ใจเย็นรออีกไม่นาน แต่ว่าช่วงก่อนผมมาราคายาง 3 กิโลร้อย ตอนนี้ขึ้นมา 2 กิโลร้อยแล้วนะ ไม่มีใครพูดถึงเลย"