svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"พาณิชย์" เผยส่งออกเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.3% สัญญาณบวกลงทุนเอกชน

22 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พาณิชย์" เผยส่งออกเม.ย.โต 12.3% ขณะยอดเฉลี่ย 4 เดือนแรกโตสูงสุดรอบ 7 ปี อานิสงส์สินค้าเกษตรหนุน โดยเฉพาะ "ทุเรียน" ส่วน "นำเข้า" ขยายตัว 20% ผลจากราคาน้ำมันพุ่ง ขณะยอดนำเข้าสินค้าทุนเพิ่ม ด้าน "แบงก์ชาติ" จ่อปรับประมาณการส่งออกเพิ่ม มองขาดดุลการค้าไร้ข้อกังวล เหตุจากนำเข้าสินค้าทุนเพิ่ม เป็นสัญญาณดีการลงทุนเอกชน

กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออกไทยเดือนเม.ย. มีมูลค่ารวมที่ 18,945.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.3% เป็นการขยายตัวติดต่อกันเดือนที่ 14 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,229 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20.36% ส่งผลให้ในเดือนดังกล่าวมียอดขาดดุลการค้า 1,283.4 ล้านดอลลาร์ 


สำหรับตัวเลขเฉลี่ย 4 เดือนแรกปี 2561 การส่งออกมีมูลค่ารวม 81,775.1 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11.53% สูงสุดรอบ 7 ปี ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 81,101.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.18% และมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 673.3 ล้านดอลลาร์ 

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกขยายตัวสูงขึ้นมาจากการส่งออกในตลาดสำคัญขยายตัวเกือบทุกตลาด เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าขยายตัวได้ดีขึ้น รวมทั้งในเดือนนี้การส่งออกกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรกลับมาขยายตัวเป็นบวก จากเดือนมี.ค.ที่ติดลบ 3.3% โดยสินค้าดาวเด่น คือ ข้าว มัน ไก่ และผลไม้ ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือนติดต่อกัน

สำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรที่กลับมาขยายตัว 9.8% ในเดือนเม.ย. เป็นผลจาก การส่งออก ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 50.7% ข้าวเพิ่ม 19.1% มันสำปะหลัง เพิ่ม 25.8% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 12.4%

ยอดส่งออกทุเรียนพุ่ง

ส่วนยางพารา ลดลง 12.3% และ และน้ำตาลทราย ลดลง 25.8% ขณะที่ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม12.2%โตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 สินค้าสำคัญที่ส่งออกได้เพิ่ม เช่น รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 17.8%เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 23.9%เม็ดพลาสติก เพิ่ม 29%น้ำมันสำเร็จรูป เพิ่ม 39%แต่ตู้เย็นและส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบลดลง

สำหรับ

สินค้าที่เป็นดาวเด่นในเดือนเม.ย. คือ ข้าว,มันสำปะหลัง,ไก่ และทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียน ส่งออก 123,871 ตัน ขยายตัว135% คิดเป็นมูลค่า220.4ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว207% โดยตลาดส่งออกทุเรียน แบ่งเป็น ตลาดจีน56,000ตัน ขยายตัว 774.9%รองลงมาเป็นเวียดนาม 41,737 ตัน,ฮ่องกง 21,144 ตัน,ไต้หวัน 3,051 ตัน และ มาเลเซียน 1,170 ตัน

ทั้งนี้การส่งออกทุเรียนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการผลักดันขายผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ โดยเฉพาะความร่วมมือกับทางอาลีบาบา ซึ่งอยากให้รัฐบาลส่งเสริมสินค้าผลไม้รายการอื่นๆขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม เพื่อช่วยตัวเลขส่งออกในภาพรวม 

อย่างไรก็ตามในส่วนของทุเรียนสนค.ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันควบคุมพื้นที่เพาะปลูก เพราะกังวลว่าหลังจากที่ราคาดีอาจทำให้เกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่นเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนกันหมดจนทุเรียนล้นตลาดและราคาร่วงลงในอีก4-5ปีข้างหน้า รวมทั้งการเร่งรัดตัดทุเรียนอ่อนเพื่อส่งออกจะส่งผลต่อคุณภาพทุเรียนไทย

คาดส่งออกปี61โตต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมการส่งออกในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในเกณฑ์ดี และมีการกระจายตัวมากขึ้นโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯมีพื้นฐานการขยายตัวแข็งแกร่งจากการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูงและมาตรการกระตุ้นทางด้านภาษีกลุ่มประเทศยูโรโซนแนวโน้มขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี ตามการสนับสนุนจากนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจหลายประเทศในเอเชียขยายตัวได้ดี เช่นเดียวกันขณะที่เศรษฐกิจจีนแนวโน้มยังไปได้ดีหลังจากไตรมาสแรกของปีขยายตัวได้ดีกว่าคาดการณ์ 

โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาคเอกชนและการส่งออกขยายตัวสูงเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์เดิมเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศยังอ่อนแอ แต่อย่างไรก็ตามการส่งออกยังขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีอันจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต

ชี้ขาดดุลการค้าไม่น่ากังวล

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า การขาดดุลการค้าในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมายังไม่น่ากังวลเพราะเป็นการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ น้ำมันดิบ และเครื่องจักรกล นับเป็นสัญญาณที่ดีมากกว่า โดยสินค้าสำคัญที่มีการนำเข้ามาก คือ น้ำมันดิบในเดือน เม.ย.นำเข้ามูลค่า 2,505 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 81.5% และในช่วง 4 เดือนแรกของปีนำเข้า 8,687 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41.6% ในขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกันโดยเดือน เม.ย.นำเข้า 472 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19.5% รวม 4 เดือนนำเข้า 1,629 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.9% และก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียมในเดือน เม.ย.นำเข้า 462 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 54% รวม 4 เดือนนำเข้า 1,428 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28.1%

นำเข้าโตสัญญาณบวกการลงทุน

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย. ถือว่าดีกว่าที่ ธปท. เคยประเมินไว้เมื่อเดือนมี.ค. จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ ธปท. จะปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกในปีนี้ เช่นเดียวกับตัวเลขการนำเข้าซึ่งในเดือนเม.ย.ขยายตัวถึง 20% เป็นระดับที่สูงกว่าที่ ธปท. คาดการณ์เอาไว้พอสมควร

"ตัวเลขการนำเข้าโตเร็วกว่าที่เรามองไว้พอสมควร และทำให้ดุลการค้ากลับมาขาดดุล แต่ไม่ใช่เรื่องที่เรากังวล เพราะการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น แม้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมัน แต่อีกส่วนก็มาจากการนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นเรื่องดี น่าจะทำให้การลงทุนเอกชนกลับมาได้ในระยะข้างหน้า เราจึงมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี"

ไร้ข้อกังวลขาดดุลการค้า

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ภัทร กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกที่เติบโตในระดับ 12.3% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะที่การนำเข้าขยายตัวได้สูงกว่า โดยอยู่ที่ระดับ 20% ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีเช่นกัน ซึ่งการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นถึง 81% แต่การนำเข้าในส่วนของสินค้าทุนก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน 

ส่วนการนำเข้าที่มากกว่าการส่งออกจนทำให้ขาดดุลการค้า ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลนัก เพราะส่วนหนึ่งมาจากการนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็น่าจะทำให้กิจกรรมการผลิตและลงทุนในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มเติบโตได้ ขณะเดียวกันแม้ดุลการค้าจะกลับมาขาดดุล แต่ยังเชื่อว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตในระดับดี ยังทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดในปีนี้ยังเกินดุลอยู่ประมาณ 8-9% ของจีดีพี

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

logoline