ปล่อยตัวแล้ว! "สมยศ" หลังติดคุกยาว 7 ปี

30 เม.ย. 61 -เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครนายสมยศ พฤษาเกษมสุข อายุ 54 ปีอดีตบรรณาธิการนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ภายหลังถูกจำคุกใน คดีความผิดฐานหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร จำคุก 1 ปี และคดีดูหมิ่นและแสดงความอาฆาตมาดร้ายกับ พระมหากษัตริย์ และองค์รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีโทษ 6 ปี รวม 2คดี จำคุก 7 ปี ติดตั้งแต่ 30 เม.ย.54

โดยบรรยากาศมีบุตรชายและบุตรสาว พร้อมด้วยผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจและให้การต้อนรับสู่เสรีและอิสระภาพ รวมกว่า 80 คน

นายสมยศ กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ได้ร่วมสนุบสนุนและร่วมกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและความถูกต้องในคดีนี้ตลอดเวลา 7 ปี ทำให้ได้รับอิสระภาพในวันนี้ ส่วนอนาคตต่อไปเท่าที่ติดตามสถานการณ์ตอนนี้ รัฐบาลนี้กลับสู่สภาพคล้ายพฤษาทมิฬ มีปัญหาและปัจจัยต่างๆ นำสู่ความรุนแรงทางการเมืองได้ โดยเฉพาะการเงิน การลุงทุน ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้ โดยเฉพาะการต่อสู้ของพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดประขาธิปไตย เรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของพลเมืองอยู่แล้วเรื่องที่ทุกคนแสดงออกทางการเมืองเพราะตอนนี้ประเทศไทยเป็นไทยแลนด์ 4.0 แล้วพี่น้องประชาชนตื่นตัวมีความรู้ทางการเมืองมากขึ้น

ส่วนการเคลื่อนไหวต่อไป คือประชาชนส่วนใหญ่เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นจากฝ่ายรัฐประหารเพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบนี้ทำให้สังคมไทยล้าหลัง เศรษฐกิจเสียหายมาก จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของประชาชน ซึ่งเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ถ้าหากใช้อำนาจเผด็จการมากขึ้นอันนี้ จะไม่เป็นผลดีในแง่สิทธิมนุษย์ชนและไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลด้วย จะทำให้เกิดความขัดแย้งกันมากขึ้น ส่วนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้น เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย กับการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว

นายสมยศ กล่าวอีกว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำนั้น ตนได้บันทึกไว้ คือเรื่องราวของผู้ต้องขัง สภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก มีปัญหาความไม่เป็นธรรมหลายๆ เรื่อง เช่น มีการใช้ผ้าห่ม 3 ผืนนอนในสภาพที่ลำบาก และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนกลุ่มคนทางการเมืองทั้งคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดงนั้น ตนได้เจอทั้ง 2 ฝ่ายก็รักใคร่กันดี คือได้รับประสบการณ์ ตอนนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ระหว่างเหลืองกับแดง จะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เพื่อความก้าวหน้าของประเทศไทย ส่วนการเลือกตั้งเป็นส่วนแบบของประชาธิปไตย ตนขอสนับสนุน และอยากให้รัฐบาล อย่าได้ใช้เล่ห์เพทุบาย หรือวิธีต่างๆ เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก เพราะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ นายสมยศถูกดำเนินคดีตามความผิด ม.112 หลัง นิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ ที่นายสมยศเป็นบรรณาธิการเผยแพร่เนื้อหาที่เข้าข่าย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเขียนโดยใช้นามปากกาว่า "จิตร พลจันทร์" แต่นายสมยศได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ใช่ผู้เขียนและบทความไม่ได้กล่าวถึงเบื้องสูง.