svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ได้มาพบปะกัน

27 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นเวลานานถึง 65 ปี ณ หมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่าปันมุนจอง ใกล้บริเวณเส้นแบ่งเขตแดนได้กลายเป็นหมู่บ้านที่สร้างประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ 2 ผู้นำเกาหลีเหนือและผู้นำเกาหลีใต้ได้มาพบปะและจับมือถ่ายภาพร่วมกัน เพื่อสร้างวันเวลาแห่งความมั่งคั่งและสันติภาพสำหรับอนาคตคาบสมุทรเกาหลี


ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และมุมมองของผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกต่อการประชุมสุดยอด 2 ผู้นำเกาหลีที่ถูกท้าทายด้วยข้อสงสัย 3 เรื่องสำคัยว่าจะสามารถปลอาวุธนิวเคลียร์หมดจากคาบสมุทรเกาหลี และนำมาซึ่งสนธิสัญญาสันติภาพที่ถาวร และการยกประดับการพัฒนาประเทศของเกาหลีเหนือเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก


สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันประวัติศาสตร์นี้ สื่อตะวันตกได้รายงานว่า หลังจากการประชุมสุดยอด ผู้นำเกาหลีใต้จะโทรศัพท์ไปแจ้งความคืบหน้าให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทราบในทันที ขณะเดียวกันจะยังคงให้ความร่วมมือกับสหรัฐอย่างใกล้ชิดต่อไป



1. คิม จองอึน ได้ก้าวข้ามผ่านมายังเขตของเกาหลีใต้ ผ่านเส้นพรมแดนที่แบ่งแยกคาบสมุทรเกาหลีออกจากกันนับตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดในปี 1953 ขณะที่มุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เดินทางมาต้อนรับถึงชายแดนระหว่างสองประเทศเมื่อเวลา 09.30 น. หรือ เวลา 07.30 น. ตามเวลาในไทย ก่อนการประชุมสุดยอดจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ขณะที่สายตาของคนทั่วโลกได้มุ่งอยู่ที่การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ของ 2 ผู้นำเกาหลีในเวลา 10.30 น. หรือ 08.30 น. ซึ่งการประชุมจะจัดขึ้นที่อาคารสันติภาพ รือ Peace House ในหมู่บ้านปันมุนจอมที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านพักรบว่างสองเกาหลี โดยคิม จองอีน นำคีย์แมนระดับสูงอีก 9 คนเข้าร่วมการประชุม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คิม โจยอง น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือ



ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ได้มาพบปะกัน




2. ขณะเดียวกัน คิม จองอีน ได้เขียนบันทึกไว้ว่า ประวัติศาสตร์แห่งสันติภาพที่เป็นโฉมหน้าใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในบัดนี้ ซึ่งผู้นำสูงสุดเกสหลีเหนือได้เขียนเป็นภาษาเกาหลีลงในสมุดบันทีก ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ 2 เกาหลี ที่อาคาร Peace House

โดยบันทึกดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาอังกฤษว่า "A new history begins now - at the starting point of history and the era of peace."

ซึ่งจะเป็นการหารือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีมูน แจอิน โดยจะให้ความสำคัญกับข้อเสนอของทางการเกาหลีเหนือที่ต้องการยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันในแถลงการณ์ร่วมอีกด้วย



3. มุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ทักทายด้วยประโยคที่ว่า I am happy to meet you พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 7 คนเพิ่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ 2 เกาหลีในครั้งนี้

โดยสำนักวิจัยสื่อในเกาหลีใต้เผยมียอดผู้ชมรายงานข่าวการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ผ่านทางการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในเกาหลีใต้วันนี้ สูงกว่า 34.06% ซึ่งสูงขึ้นจากว่าผู้ชมเมื่อวานนี้ที่ระดับ 17.41% ขณะที่มีรายงานว่าทีวีของเกาหลีเหนือไม่มีการถ่ายทอดรายงานสด



4. ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และมุมมองของผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกต่อการประชุมสุดยอด 2 ผู้นำเกาหลีที่ถูกท้าทายด้วยข้อสงสัย 3 เรื่องสำคัญว่า จะสามารถปลอาวุธนิวเคลียร์หมดจากคาบสมุทเกาหลี และนำมาซึ่งสนธิสัญญาสันติภาพที่ถาวร โดยประกาศว่า สงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1950-1963 ได้ยุติลงแล้วอย่างเป็นทางการ

และการยกประดับการพัฒนาประเทศของเกาหลีเหนีเข้าสู่การเปิดตลาดในระบบเศรษฐกิจโลก ตามโมเดลแผนพัฒนาศรษฐกิจของจีนหรือไม่

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ได้มาพบปะกัน

5. ในการประชุมสุดยอด 2 ผู้นำเกาหลีนับว่าเป็นการโหมโรงก่อนที่จะมีการประชุมระหว่างผูเกาหลีเหนือและผู้นำสหรัฐในต้นเดือนมิถุนายนนี้ ได้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลกเช่นกัน


ทัเงนี้ สื่อตะวันตกได้รายงานว่า หลังจากการประชุมสุดยอด ผู้นำเกาหลีใต้จะโทรศัพท์ไปแจ้งความคืบหน้าให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทราบในทันที ขณะเดียวกันจะยังคงให้ความร่วมมือกับสหรัฐอย่างใกล้ชิดต่อไป

logoline