อังกฤษระบุ ยังไม่มีแผนโจมตีซีเรียเพิ่ม

บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า การโจมตีของ 3 ประเทศต่อซีเรียเมื่อวันเสาร์เป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดกลับมาใช้อาวุธเคมีอีก และบอกด้วยว่านี่ไม่ใช่การโจมตีเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองหลังปรากฎข่าวรัฐบาลซีเรียประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มกบฎในเขตกูตาตะวันออกเมื่อวันเสาร์หลังการโจมตีของสหรัฐฯ และพันธมิตร


รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อเสนอสำหรับการโจมตีเพิ่มเติม เนื่องจากรัฐบาลซีเรียยังไม่ได้ใช้อาวุธเคมีอีก แต่หากพบว่ามีการใช้อาวุธเคมีอีกเมื่อไหร่อังกฤษและพันธมิตรจะดูอีกทีว่ามีทางเลือกอะไรเหลืออยู่บ้าง

คำกล่าวของบอริส จอห์นสัน สอดคล้องกับแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษที่ระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นบนพื้นฐานด้านมนุษยธรรม และเป็นไปอย่างชอบธรรมตามกฎหมาย และยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับนิกกี เฮย์ลี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ที่กล่าวในเวทีการประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมจะโจมตีเมื่อใดก็ตามที่ซีเรียใช้อาวุธเคมีอีก


อย่างไรก็ตาม เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงานและผู้นำฝ่ายค้านอังกฤษออกมาตั้งข้อสงสัยต่อความชอบธรรมในการร่วมโจมตี เนื่องจากผู้นำอังกฤษตัดสินใจโดยไม่ผ่านมติของสภา แม้ไม่ได้มีกฎหมายบังคับก็ตาม และตัวเขาจะสนับสนุนการกระทำใดๆก็ตามที่เป็นไปตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเท่านั้น

ด้านสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสเมื่อวันอาทิตย์ว่า พระองค์ทรงไม่สบายพระทัยต่อสถานการณ์โลกในปัจจุบัน แม้มีเครื่องมือในเวทีระหว่างประเทศ แต่กลับเป็นเรื่องยากที่ชาติต่างๆ จะเห็นชอบร่วมกันเพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรียและภูมิภาคอื่นๆ ของโลก พระองค์จึงทรงเรียกร้องให้ผู้นำโลกหันกลับมาพยายามกันใหม่อีกครั้ง ขณะที่ในวันเสาร์ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติระบุ วิธีการทางทหารไม่ใช่คำตอบสำหรับซีเรีย