ศึกชิงนาง? สุเทพ - สมคิด เปิดศึก ชิง "ประยุทธ์"

นอกจากมีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย ส. เหมือนกันทั้ง 2 คนนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่เหมือนกันจนเป็นเรื่อง

อย่างแรกทั้งคู่พูดให้รู้สึกว่ามีความไม่ชัดเจนเหมือนกันในเรื่องการตั้งพรรค ทั้งๆที่ลึกๆแล้ว ทั้งคู่ต่างตั้งใจจะทำพรรคขึ้นมาเหมือนกัน

อีกอย่างที่เหมือนกันคือ ทั้งคู่ประกาศชัดเจนว่าต้องการสนับสนุนให้"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง

(อ่านต่อ..."สมคิด"หนุน"บิ๊กตู่"นายกฯต่อ)

"ส่วนตัวไม่เคยบอกว่าเป็นคนจัดตั้งพรรค แต่หากมีการจัดตั้งจริงๆ คงเป็นลูกน้องที่จะจัดตั้งพรรคขึ้น และยืนยันประกาศชัดมาหลายครั้งแล้วว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯคนต่อไป เพื่อสานงานต่อ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือประเทศให้เดินหน้าต่อไปการบริหารประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ ถ้านายกฯสละเวลาได้ ก็

อยากให้อยู่ต่อ ผมพร้อมช่วยสนับสนุน"นี่คือคำพูดของสมคิด ที่พูดไว้เมื่อวันที่9 เมษายน ที่ผ่านมา

ส่วนนี่คือคำพูดของสุเทพ ที่พูดไว้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม

"ผมจะเป็นสมาชิกได้อย่างไร พรรคเขายังไม่ได้ตั้งเลย...แต่ว่าเมื่อไหร่ที่ประชาชนที่ผมเชื่อถือศรัทธาประกาศว่าจะตั้งพรรคการเมืองของประชาชน ทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ ทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ผมเห็นประจักษ์ ผมจะไปร่วมกับเขา ไปช่วยเขา ผมยินดีรับใช้เขา เพราะผมสันทัดทางนี้

ผมทำการเมืองไม่ได้ทำเพื่อตัวบุคคลแต่ถ้าถามผมว่ายังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ไหม วันนี้ยังประกาศอีกว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศชัดว่ายังไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกฯของประเทศไทย และยังคาดหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ไขปัญหาประเทศได้ จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่ถ้าถามว่าพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ไหม อันนั้นรอให้เขาตั้งพรรคก่อน"

นั่นคือท่าทีในทางเปิดเผย

ในทางไม่เปิดเผยนั้น ก็ต้องบอกว่าทั้งสองต่างต้องการได้ชื่อ "พล.อ.ประยุทธ์" มาอยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯเหมือนกันทั้งคู่ แค่ยังไม่เคยประกาศชัด

จุดนี้เองที่กำลังจะเป็นศึกขนาดย่อมทางการเมือง

สำหรับ "สุเทพ" นั้น เป็นที่รู้กันดีว่ามี "ประวัติศาสตร์" ร่วมกับ "บิ๊กตู่" มายาวนานกว่า "สมคิด"

คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าที่ "บิ๊กตู่" ก้าวมามีอำนาจสูงสุดในทุกวันนี้ก็เพราะ "สุเทพ" และแม้ที่ผ่านมา "สุเทพ" กับ "บิ๊กตู่" พยายามจะรักษาระยะห่างระหว่างกันไว้

ส่วน "สมคิด" เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิต "บิ๊กตู่" ก็ตอนที่รัฐบาลขาด "มือเศรษฐกิจ" หลังจาก "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล พ้นตำแหน่งไป และเมื่อเข้ามาเป็นรองนายกฯ ก็ดูเหมือน "บิ๊กตู่" จะฟังและให้ความสำคัญมาก จนสุดท้ายวันนี้ "สมคิด" สามารถกุมกระทรวงเศรษฐกิจแทบทั้งหมดไว้ได้

ผู้ที่คร่ำหวอดทางการเมืองอ่านเกมกันทะลุว่าเป้าหมายของ "สมคิด" ในการตั้งพรรคการเมือง (แม้จะเป็นพรรคของลูกน้อง) โดยชู "บิ๊กตู่" เป็นจุดขายและเป็นแรงดึงดูด "นักการเมืองเก่า" หลายกลุ่มก็คือ การกลับมาคุมกระทรวงเศรษฐกิจอีกครั้งหลังเลือกตั้ง

ขณะที่"สูตรรัฐบาล" หลังเลือกตั้งที่ฝั่งสุเทพหวังไว้ตอนแรก คือ จะมีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้ดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจ

เมื่อเป็นอย่างนี้จึงทำให้เกิดภาวะ "เหยียบตาปลา" กันขึ้น

ตอนนี้มีการย้อนความหลังกันว่าหากมองกลับไปจะเห็นได้ว่าผู้ลงทุนลงแรงมากที่สุดจนทำให้ "บิ๊กตู่" มีวันนี้ คนแรกก็สุเทพและ กปปส. รองลงมาก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนสมคิด เพิ่งมาทีหลัง

บางคนมองด้วยซ้ำว่า "สมคิด" คือ "ตาอยู่"

สำหรับสุเทพนั้น ถึงแม้ที่ผ่านมาอาจจะมีภาพมีข่าวความไม่ลงรอยในพรรคประชาธิปัตย์อยู่บ้าง แต่สุดท้ายการที่แกนนำกปปส.ที่เป็นอดีตส.ส.ต่างประกาศกลับเข้าพรรค ก็น่าจะเป็นคำตอบได้พอสมควร

ดังนั้นในภาวะที่การจัดตั้งพรรคของสุเทพก็ไม่ได้ราบรื่น เพราะมีปัจจัยใหม่ๆมาให้ต้องคิดและปรับเปลี่ยนแผนอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ปัจจัยเรื่อง "พรรคสมคิด" น่าจะกำลังเป็นปัญหาใหญ่สุดของสุเทพแล้ว

ภารกิจของสุเทพตอนนี้น่าจะเป็นการ "ชิงตัวบิ๊กตู่" ให้ออกมาจากฝั่งสมคิดให้ได้

แม้ไม่ใช่ "ศึกชิงนาง" แต่ก็ใกล้เคียง

สำหรับ "ประยุทธ์" นั้น ขึ้นชื่อเรื่องการ "ยื้อเวลา" เพื่อรอให้สถานการณ์สุกงอม ชัวร์จริงๆ จึงจะตัดสินใจ ซึ่งเขาเคยพิสูจน์ให้เห็นมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อตอนที่ม็อบกปปส.ของ"สุเทพ" เล่นชักเย่ออยู่กับ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"

ถ้าไม่ชัวร์บิ๊กตู่ไม่มีทางตัดสินใจ

คนฝั่งเพื่อไทยเองก็รู้ซึ้งกับบทเรียนครั้งนั้น ซึ่งจนถึงวันนี้หลายคนในพรรคยังบ่นไม่เลิกว่าที่แพ้ครั้งนั้นเพราะ"เชื่อประยุทธ์"

ครั้งก่อน "สุเทพ" สู้กับ "ยิ่งลักษณ์" เพื่อชิง "บิ๊กตู่" ที่ตอนนั้นเป็นผบ.ทบ.

ครั้งนี้ "สุเทพ" ต้องสู้อีกครั้งกับ "สมคิด" เพื่อชิง "บิ๊กตู่" ที่วันนี้มีอำนาจมากกว่า ผบ.ทบ.

รอดูสุดท้าย"บิ๊กตู่" จะตกลงปลงใจไปอยู่กับใครหรือไม่ จะมีการปั่นกระแสเรียกค่าตัวไหม หรือสุดท้ายจะพลิกล็อก "ม่ายขันหมาก" ไม่มีใครเอา !!