"เป็นความผิดของผมเอง ผมขอโทษ ผมเป็นคนเริ่มต้นเฟซบุ๊ก ผมทำมัน และผมต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
เจ้าพ่อเฟซบุ๊กโอดครวญและว่าเฟซบุ๊คไม่ได้ปกป้องแพลตฟอร์ม "จนกลายเป็นเรื่องของเฟคนิวส์ ต่างชาติแทรกแซงการเลือกตั้ง เฮตสปีช รวมไปถึงนักพัฒนาแพลตฟอร์ม และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล"
ซีอีโอวัย 33 ปี พูดถึงการต่อสู้อย่างยาวนานต่อต้านการเข้ามามีบทบาทของรัสเซียในเฟซบุ๊ก หวังสร้างอิทธิพลในการเลือกตั้งสหรัฐและอื่น ๆ
"มีคนในรัสเซียทำงานด้วยการพยายามแสวงหาประโยชน์จากระบบของเรา รวมไปถึงอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ และระบบอื่น ๆ นี่จึงเป็นการแข่งขันด้านอาวุธแล้วเขาจะได้สิ่งที่ดีขึ้น เราจึงจำเป็นต้องลงทุนเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีขึ้นด้วย"
ก่อนหน้านี้ซักเคอร์เบิร์กเคยยอมรับว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ของตนไม่ได้คุ้มครองการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนได้มากพอ ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุด การให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภา 44 คนเมื่อวันอังคาร ก่อนจะพบกับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรในวันรุ่งขึ้น ซักเคอร์เบิร์กจึงต้องเจอกับทั้งคำถามที่ดุเดือดและเป็นมิตร
ในบรรดาคำถามทั้งหมดไม่มีข้อไหนที่สร้างความสับสนให้กับเขา มากไปกว่าคำถามของ ส.ว.ดิค เดอร์บิน ที่ถามว่า "เขานอนที่ไหนในคืนก่อนจะมาให้ข้อมูล"
"คุณพอจะบอกเราได้มั้ยว่าเมื่อคืนคุณพักที่ไหน" เล่นเอาซักเคอร์เบิร์กอึ้งไป 8 วินาทีเต็ม ก่อนหัวเราะเบา ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแล้วปฏิเสธตอบคำถามในที่สุด
"ถ้าคุณส่งข้อความหาใครในสัปดาห์นี้บอกชื่อเขาเหล่านั้นได้มั้ย" ส.ว.รัฐอิลลินอยส์จากพรรคเดโมแครต รุกต่อ แน่นอนว่า ซักเคอร์เบิร์ก ไม่ยินดีตอบคำถามเหมือนเดิมกลวิธีของเดอร์บินนั้นต้องการชี้ไปยังประเด็นปัญหาสำคัญเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ของเฟซบุ๊ค
สิ่งที่ทุกคนจับตามองคือการมีกฎระเบียบควบคุมบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ ซักเคอร์เบิร์กกล่าวว่า เขายอมรับกฎระเบียบแต่ระเบียบที่ซับซ้อนก็อาจส่งผลต่อบริษัทโซเชียลมีเดียกำลังผุดขึ้นได้
"ผมคิดว่าอินเทอร์เน็ตทวีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตผู้คน เราจึงจำเป็นต้องคุยกันให้ละเอียดเรื่องระเบียบที่ต้องมี และระมัดระวังให้จงหนักว่านโยบายออกระเบียบใหม่จะไม่ไปหลอมรวมบริษัทที่ได้ประโยชน์อยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น"
ซักเคอร์เบิร์กเผยด้วยว่า เฟซบุ๊กกำลังร่วมมือกับอัยการพิเศษสหรัฐสอบสวนเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2559
"งานที่เราร่วมมือกับอัยการพิเศษทำอย่างลับๆ ผมขอรับรองกับที่ประชุมนี้เลยครับว่า ผมไม่ได้เปิดเผยความลับ"
พอถึงคำถามหนัก ๆ เรื่องเคมบริดจ์อนาลิติกาล้วงข้อมูลไปมหาศาล ซีอีโอเฟซบุ๊กถึงกับออกอาการเครียด
"เรากำลังทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับ"เคมบริดจ์ อนาลิติกา"กันแน่ และรับประกันว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"
แต่ ส.ว.หลายคนก็ไม่รับมุกสำนึกผิดแบบนี้
"เราเห็นคุณเดินสายขอโทษแบบนี้มาหลายครั้งแล้วล่ะ" ส.ว.ริชาร์ด บลูเมนทัลจากรัฐคอนเนตทิคัตดักคอ
"ที่ผมยังคาใจคำให้การของคุณในวันนี้คือ ผมยังไม่เห็นว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงวิธีทำธุรกิจของคุณได้ จนกว่าจะมีระเบียบชี้เฉพาะออกมา"
การให้ข้อมูลครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวย่างหนึ่งของซักเคอร์เบิร์ก ผู้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาทำเฟซบุ๊กเมื่อปี 2547 จนกลายเป็นบริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่สุดของโลกมูลค่ากว่า 450,000 ล้านดอลลาร์ ระหว่างช่วงซักถามซักเคอร์เบิร์กปฏิเสธคำกล่าวที่ว่ายักษ์โซเชียลมีเดียรายนี้ ที่มีผู้ใช้กว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก ควบคุมตลาดแต่เพียงผู้เดียว
"ชาวอเมริกันเฉลี่ยใช้ 8 แอพสื่อสารกับเพื่อนและติดต่อกับคนโน้นคนนี้ มีตั้งแต่แอพสั่งข้อความไปจนถึงอีเมล"
ซักเคอร์เบิร์กกล่าวและว่า เฟซบุ๊กยังเชื่อมั่นในตัวแบบธุรกิจที่มีรายได้จากการโฆษณา แต่ก็ดูเหมือนเปิดโอกาสให้กับเวอร์ชันจ่ายเงินด้วย
"เฟซบุ๊กฟรีจะมีอยู่เสมอ" ซีอีโอกล่าวกับคณะกรรมาธิการ
ขณะที่นอกสภาผู้ประท้วงหลายสิบคนสวมหน้ากากซักเคอร์เบิร์ก และเสื้อยืดสกรีนข้อความว่า #ลบเฟซบุ๊ก รวมตัวกันประท้วง
ภายในห้องประชุมอันแน่นขนัดนักกิจกรรมกลุ่มโค้ดพิงค์ สวมแว่นตามหึมาเขียนข้อความ "หยุดล้วงข้อมูล" บนเลนส์ พร้อมชูป้าย "หยุดบริษัทโกหก"
ด้านนักลงทุนพอใจกับการแสดงบทบาทของซีอีโอ ส่งผลให้หุ้นเฟซบุ๊กราคารายวันขยับขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ปิดบวก 4.5%