เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คนจากการดื่มเหล้าเถื่อนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในกรุงจาการ์ตา ชวาตะวันตก และปาปัวที่อยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ขณะอีกหลายสิบคนอาการยังวิกฤติอยู่ในโรงพยาบาล
ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสายกลาง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถซื้อหาได้ในเมืองใหญ่ ๆ แต่ด้วยอัตราภาษีสรรพสามิตสูง ทำให้เครื่องดื่มมึนเมากลายเป็นของราคาแพง แรงงานค่าจ้างต่ำบางครั้งหันไปดื่มเหล้าถูกแบบต้มกันเอง แต่ก็เสี่ยงอัตรายอย่างมาก ในปี 2559 เคยมีผู้เสียชีวิตในชวากลางมากถึง 36 คนจากสาเหตุเดียวกัน
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหล้าเถื่อนระลอกล่าสุดนี้ อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะตำรวจยังคงบุกตรวจค้นหลายสถานที่ในเมืองต่างๆทั่วประเทศ เพื่อจับกุมพ่อค้าที่ต้มเหล้าเอง
อีกด้าน มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 9 คน แต่ทางการกำลังติดตามหาตัวผู้จัดจำหน่ายเหล้าเถื่อนรายใหญ่ ที่แอบขายให้กับพ่อค้าทั่วไป และมีพ่อค้าบางรายต้มเองโดยผสมสารอันตรายลงไปด้วย เช่น ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งยอมรับว่า ผสมยาฉีดยุง แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ และยาแก้ไอลงไปในเหล้าที่เขาต้มเอง ขณะพ่อค้าอีกรายที่ถูกจับกุม ยอมรับว่า ผสมแอลกอฮอล์บริสุทธิ์กับเครื่องดื่มโคคา-โคลา และเครื่องดื่มชูกำลัง
การล้มตายแบบใบไม้ร่วงทำให้เมืองบันดุง เมืองใหญ่ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา และพื้นที่โดยรอบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในปี 2558 อินโดนีเซียสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่้มแอลกอฮอล์ในร้านสะดวกซื้อและร้านค้าเล็กๆส่วนใหญ่ นอกสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเกาะบาหลี แต่ยังซื้อหาได้ในซูเปอร์มาเก็ต บาร์และโรงแรมทั่วประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพี อ้างความเห็นของ เดวี ราห์มาวตี นักวิชาการมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ว่าเมื่อห้ามขายในร้านสะดวกซื้อ คนที่มีอำนาจซื้อ ไม่กระทบ แต่คนรายได้น้อยพยายามหาช่องทางใหม่ และพ่อค้าใต้ดินก็ฉวยโอกาสสนองตอบความต้องการ