โดย เส้นทางแรก เชื่อมเหนือ-ใต้ จากเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของส่วนเส้นทางที่สอง เชื่อมตะวันออก-ตะวันตก จากนครพนม-แม่สอด โดยเบื้องต้นจะเริ่มสร้างทางตะวันออกจากมุกดาหาร-กาฬสินธุ์-มหาสารคาม-บ้านไผ่ก่อนส่วนช่วงบ้านไผ่-นครสวรรค์ หรือบ้านไผ่-พิษณุโลกนั้นต้องดูผลการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือทั้งนี้ใน 2 เส้นทาง ปัจจุบันมีโครงข่ายถนนแล้ว แต่เพื่อป้องกันปริมาณจราจรที่แออัดในอนาคตจึงมีแนวคิดที่จะก่อสร้างเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังจัดทำแผนแม่บทฉบับที่2 โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่นในการศึกษาความเหมาะสมของโครงข่ายย่อยเชื่อมโยงรถไฟฟ้า10 สายหลักในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถรเดินทางได้ไม่ติดขัดกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินคาดว่าการจัดทำแผนแม่บทฉบับดังกล่าวจะเสร็จทันรัฐบาลชุดนี้แต่คงก่อสร้างไม่ทัน และต้องให้รัฐบาลชุดหน้ามาดำเนินการต่อ
ทั้งนี้รัฐบาลมีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับประสิทธิภาพโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอยู่แล้วโดยปัจจุบันอยู่ระหว่างใช้แผนพัฒนาโลจิสติกส์ฉบับที่ 3 นอกจากนี้ยังมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งจะมีแผนงานในทุกระดับลงไปถึงหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยเป้าหมายสำคัญคือ การเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม, การลดมลภาวะ,การให้บริการเข้าถึงทุกกลุ่ม และการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น ระบบจีพีเอสระบบเตือนคนขับง่วง ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 58 รัฐบาลนี้ได้อนุมัติโครงการไปแล้ว17 โครงการ
นอกจากนี้การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะทาง 3 พันกิโลเมตร จะช่วยเพิ่มกำลังความสามารถในการขนส่งสินค้าทดแทนการขนส่งสินค้าทางถนน โดยการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากปัจจุบันที่มีระยะทางอยู่100 กิโลเมตร จากเป้าหมาย 464 กิโลเมตร ซึ่งกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติจาก ครม.