svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สงครามการค้ายก 2! สหรัฐประกาศรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีนที่ถูกตั้งกำแพงภาษี 25%

04 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สงครามการค้ายก 2 สหรัฐประกาศรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีนที่ถูกตั้งกำแพงภสษี 25% พุ่งเป้าสินค้า Telecom equipment, Computer equipment, Robotics, Aircraft รวมมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์


แต่จะยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที โดยจะเปิดให้มีเวลาในการแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวราว 2 เดือน พร้อมเปิดทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็น (Public Hearing) ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยที่ Robert Lighthizer ผู้แทน USTR ระบุการเลือกรายชื่อสินค้าครั้งนี้จะส่งผลสูงสุดต่อผู้ส่งออกจีน แต่จะจำกัดผลเสียหายไม่ให้กระทบผู้บริโภคอเมริกัน

ทางด้านจีนขู่ใช้มาตรการตอบโต้ หลังสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 1,300 รายการ โดยที่ทูตจีนประจำ WTO เผยในวันนี้ว่า การที่สหรัฐดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมการค้าของจีนมาตรา 301 นั้น ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของ WTO ที่ว่าด้วยการห้ามเลือกปฏิบัติและตั้งกำแพงภาษี



1. สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ครอบคลุมสินค้า 1,300 รายการเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ พุ่งเป้าสินค้าทางด้านเทคโนโลยี การสื่อสาร การขนส่ง และทางการแพทย์ เพื่อตอบโต้จีนที่ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ

แต่จะยังไม่มีผลบังคับใช้ใพฤษภาคมนทันที โดยจะเปิดให้มีเวลาในการแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวราว 2 เดือน พร้อมเปิดทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็น (Public Hearing) ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้

หลังจากมื่อวันที่ 22 มีนาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพื่อลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ โดยสั่งการให้ USTR เปิดเผยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีภายใน 15 วัน และใช้เวลาอีก 1 เดือนในการรับฟังความคิดเห็นของชาวอเมริกัน



2. Robert Lighthizer ผู้แทน USTR เปิดเผยว่า การเลือกรายชื่อสินค้าครั้งนี้จะส่งผลสูงสุดต่อผู้ส่งออกจีน แต่จะจำกัดผลเสียหายไม่ให้กระทบผู้บริโภคอเมริกัน

ส่งผลให้บัญชีหาว่าวรายการสินค้าจากจีนที่ถูกตั้งกำเพงภาษียาว 44 หน้าครอบคลุม 1,300 รายการประกอบด้วย Telecom equipment, Computer equipment, Robotics, Aircraft, Toys, Office equipment, Furniture, Seats (professional chairs), Auto parts, TVs, Lamps & lighting และ Suitcases & Bags

อย่างไรก็ตาม ในรายงานของ Deutsche Bank ชี้ว่า Top 5 ของสินค้าจีนที่ส่งไปยังสหรัฐคือ Electrical Machinery มูลค่า 55,000 ล้านดอลลาร์ Machinery Appliances มูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ คอมพืวเตอร์มูลค่า 39,000 ล้านดอลลาร์ เครื่องนุ่งห่มมูลค่า 38,000 ล้านดอลลาร์ และ Cellphones มูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์



3. ขณะที่ทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยถึงการที่สหรัฐดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมการค้าของจีนมาตรา 301 นั้น ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของ WTO ที่ว่าด้วยการห้ามเลือกปฏิบัติและตั้งกำแพงภาษี

ทั้งนี้ ทางการจีนมีแผนจะฟ้องร้องต่อ WTO และยังเตรียมใช้แผนตอบโต้สินค้านำเข้าของสหรัฐด้วยมาตรการที่มีความรุนแรงและเท่าเทียมกัน คาดว่าจะเปิดเผยออกมาภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยที่ทางการจีนมั่นใจในสมรรถนะที่จะมีการตอบโต้มาตรการกัดกันการค้าของสหรัฐอย่างแน่นอน

ขณะที่ USTR ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า มูลค่ารวม 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน โดยไม่ให้มีการบีบบังคับให้บริษัทสหรัฐที่เข้าลงทุนในจีน ต้องทำการถ่ายโอนเทคโนโลยีให้กับบริษัทท้องถิ่นของจีน
.
4. ช่วงเช้าวันนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาระบุว่า ทางการจีนขอประณามและต่อต้านอย่างเต็มที่กับการที่สหรัฐในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน และจีนพร้อมที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ ต่อสินค้านำเข้าของสหรัฐในลักษณะเดียวกัน

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐเปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ครอบคลุมสินค้า 1,300 รายการ เป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์จีนยังระบุว่า สหรัฐไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน และยังเดินหน้าประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักเหตุผลอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการกระทำเพียงฝ่ายเดียวและเป็นการปกป้องทางการค้าที่จีนต่อต้านอย่างจริงจัง ตลอดจนการขออุทธรณ์จากประชาคมธุรกิจของจีนและของสหรัฐ รวมถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคอีกด้วย


5. บรรยากาศตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้าวันพุธอ่อนตัวลง เหตุนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดย NIKKEI 225 ญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.09% ดัชนี HSI ฮ่องกง ลดลง 0.08%

ในทางตรงกันข้าม ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.42 จุด หรือ 0.33% แตะที่ 3,147 และเงินหยวนมรงตัวที่ 6.29 ต่อดอลลาร์หลังจากวันอังคารแตะที่ 6.288 หยวนต่อดอลลาร์ ท่ามกลางนักลงทุนยังคงจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนแรงลง หลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเปิดทำการซื้อขาย โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าจำนวน 1,300 รายการของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ซึ่งครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ การบิน และเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสินค้าจำพวกเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์

ทางด้านจีนได้ออกมาขู่ว่าจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) และจะตอบโต้สหรัฐในระดับที่เท่าเทียมกัน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 54.2 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

รายงานของไฉซินระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี PMI เดือนมี.ค.ชะลอตัวลงอย่างมากนั้น มาจากการที่ธุรกิจใหม่ๆ และจ้างงานในภาคการผลิตขยายตัวในอัตราที่ช้าลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อุปสงค์ในภาคบริการของจีนเริ่มซบเซาลง

ส่วนธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ในเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.9675 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.95 พันล้านดอลลาร์จากระดับของเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าในการแปลงค่าของสินทรัพย์นอกสกุลเงินดอลลาร์ ปรับตัวสูงขึ้น

logoline