svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

​"ไอติม" หลาน "อภิสิทธิ์" ลั่นสมัครเป็นทหาร! อยากเลือกช่องทางที่โปร่งใสที่สุด

03 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ไอติม" สมัครเป็นทหาร พร้อมรายงานตัว มทบ.11 เผยอนาคตการเมือง หลังปลดประจำการ หากอุดมการณ์ ปชป.ยึดหลัก"เสรีนิยมประชาธิปไตย" ก็พร้อมเข้าพรรค


"ไอติม" สมัครเป็นทหาร พร้อมรายงานตัว มทบ.11 เผยอนาคตการเมือง หลังปลดประจำการ หากอุดมการณ์ ปชป.ยึดหลัก"เสรีนิยมประชาธิปไตย" ก็พร้อมเข้าพรรค

เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่โรงเรียนวัดทองใน ซอยสุขุมวิท 77 กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการประจำปี 2561

โดยมีชายไทยมารอเข้ารับการตรวจเลือกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจุดตรวจเลือกทหารดังกล่าว มีบุคคลที่น่าสนใจเข้ารับการตรวจเลือก คือ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ซึ่งเป็นหลานชายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มารอเข้ารับการตรวจเลือกด้วย

​"ไอติม" หลาน "อภิสิทธิ์" ลั่นสมัครเป็นทหาร! อยากเลือกช่องทางที่โปร่งใสที่สุด



ทั้งนี้ นายพริษฐ์ได้ใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปรัชญาการเมืองเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย

อ๊อกซฟอร์ด ยื่นสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพบก ผลัดที่1 โดยผ่านขั้นตอนการตรวจร่างกาย วัดขนาด และรอรับใบ สด.43 หรือใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน จากพ.ท.ณัฐพัชร์ ฬาทอง ประธานการตรวจเลือกทหารกองประจำการกรุงเทพฯ คณะ1

จากนั้น เข้ารับหมายนัด และขอสิทธิ์ลดวันรับราชการทหารกองประจำการ จาก 2 ปี เหลือ 6 เดือน ซึ่งจะเข้ารายงานตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้

​"ไอติม" หลาน "อภิสิทธิ์" ลั่นสมัครเป็นทหาร! อยากเลือกช่องทางที่โปร่งใสที่สุด


นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ตนก็ต้องเข้ามาเกณฑ์ทหาร เพราะไม่ได้เรียน รด. สิ่งที่ทำให้ตนตัดสินใจเข้าสมัครเป็นทหารมี 2 เหตุผล คือ อยากเลือกช่องทางที่ตรงไปตรงมาและโปร่งใสที่สุด กับส่วนตัวเป็นคนรักเสรีนิยม การที่ตนตัดสินใจมาก่อนว่าจะสมัคร ทำให้ตนรู้สึกว่า ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ ไม่ใช่การเสี่ยงโชคแล้วได้ใบที่ตนไม่อยากได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้วางแผนอนาคตไว้ชัดเจนว่าจะทำอะไรต่อจากนี้

"ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่า สนใจงานการเมือง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการที่ผมเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองใดๆ ก็คือ ผมเป็นคนไทยที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันกับคนอื่น ขณะนี้ผม จึงมุ่งมั่นทำหน้าที่ในส่วนนี้ก่อน" นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่าสาเหตุสมัครเข้ารับราชการทหารครั้งนี้ จะเป็นการลบภาพนายอภิสิทธิ์ ที่เคยถูกกล่าวหาเรื่องการหนีการเกณฑ์ทหาร นายพริษฐ์ กล่าวว่า "ไม่ได้มองว่าเป็นการลบภาพ เพราะกรณีของนายอภิสิทธิ์ได้ตัดสินไปแล้ว ได้เห็นข้อเท็จจริงกันแล้ว เรื่องการสมัครเข้ารับราชการทหารนั้น ผมเป็นหนึ่งในประชาชนทุกคนที่อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายอภิสิทธิ์"

ผู้เสื่อข่าวถามว่า หากปลดประจำการแล้ว ตรงกับช่วงที่ คสช.ปลดล็อคกิจกรรมทางการเมือง แล้วจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับว่า ในเวลานั้น พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์เหมือนกับตนหรือไม่ นั่นคือ พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จะต้องชัดเจน เรื่องเสรีนิยมประชาธิปไตย หาก พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ที่ตรงกัน ตนก็จะสมัครเป็นสมาชิก ส่วนจะได้เป็นหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกของพรรค

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้งานการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ตนสนใจ เพราะเป็นงานที่มีเอกลักษณ์ เจ้านายคือประชาชน ความสำเร็จก็คือ ขึ้นอยู่กับว่า ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากน้อยอย่างไร และประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินว่า ตนควรจะอยู่หรือควรจะหยุดทำงานนี้ และถ้าสมาชิกสนับสนุนให้ตนเป็นผู้สมัคร ตนก็พร้อม


///////

logoline