คุมราคาสินค้าปรับขึ้นค่าแรง พาณิชย์จัดธงฟ้าลด10-15%

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่าขณะนี้กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าหลังปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 8-22 บาท เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ แต่ได้รับนโยบายจากนายสนธิรัตน์สนธิจิรวงศ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เพิ่มการออกตรวจสอบราคาสินค้ามากขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่มีเหตุผล

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ได้เชิญผู้ประกอบการเข้ามาหารือถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งคาดว่ากระทบไม่มากและมีบางอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมาที่ต้องดูว่ากระทบแค่ไหน แต่ถ้าประชาชนพบว่า ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นผิดปกติขอให้แจ้งกรมการค้าภายในเข้าตรวจสอบ

นอกจากนี้ สั่งการให้มีการขายสินค้าราคาถูกในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน โดยให้กรมการค้าภายในเชิญผู้ประกอบการรายใหญ่มาหารือถึงสินค้าที่ได้รับความนิยมจากประชาชน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อทำโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ 1- 3 เดือน โดยให้พาณิชย์จังหวัดสำรวจว่าสินค้าใดได้รับความนิยม เพื่อให้กรมการค้าภายในหารือผู้ผลิตสินค้าลดราคา 10-15% โดยเริ่มนำร่องเดือน เม.ย.ในกรุงเทพฯและปริมณฑล

ทั้งนี้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ได้รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน มี.ค.2561 เท่ากับ 101.12 สูงขึ้น 0.79% เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว สูงขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 9 และเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ปีนี้ ติดลบ 0.09% สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อเงินเฟ้อสูงขึ้นจากราคากลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 3.79% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ขณะที่กลุ่มอาหารสดลดลงต่อเนื่อง 0.66% เพราะผักบางชนิดทยอยออกสู่ตลาด

ส่วนราคาผักสดเพิ่มขึ้น 7.63 %โดยเฉพาะราคามะนาวปีนี้ขยับขึ้นถึง50% หรือเฉลี่ยลูกละ 5 บาท ผักชี ผักกาดขาว กะหล่ำปลีก ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมถึงกาแฟผง ชาสำเร็จรูปพร้อมดื่ม อาหารสำเร็จรูป และข้าวสารเจ้าราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นบวกครั้งแรกใน 30 เดือน ตามการปรับตัวของราคาข้าวในประเทศที่สูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีและราคาส่งออก คิดว่าเป็นสัญญาณที่ดีของราคาสินค้าเกษตรที่ราคาสูงขึ้น โดยข้าวสูงขึ้นถึง 1.57% ทำให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโต

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อไตรมาส 2 ปีนี้ มีแนวโน้มสูงขึ้นและคาดการณ์ไว้ที่ 1.06% มีปัจจัยจากฐานดัชนีเงินเฟ้อช่วงเดียวกันปีก่อนติดลบ และแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรกรและรายได้ดีขึ้น จากราคาสินค้า การลงทุนภาครัฐ ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำยังไม่มีผล โดยปีนี้คาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 1.14% ภายใต้กรอบ 0.7-1.7% ซึ่งแต่ละเดือนจากนี้มีโอกาสที่จะเห็นดัชนีเงินเฟ้อสูงขึ้น 1% ซึ่งเกิดขึ้นจากรายได้ที่ดีขึ้น และกำลังซื้อมากขึ้น ความต้องการสินค้ามีมากขึ้น

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า เงินเฟ้อเดือน มี.ค.อยู่ในระดับต่ำ แต่ไม่ผิดจากที่คาดการณ์เพราะการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบที่ผ่านมา ได้ลดคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลจากราคาอาหารสดที่ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ยังเชื่อว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานในปีที่แล้วอยู่ระดับต่ำ

"ไตรมาส 2 ปีที่แล้วฐานค่อนข้างต่ำเพราะราคาอาหารสดลดลงค่อนข้างมาก เราจึงเชื่อว่าด้วยฐานที่อยู่ระดับต่ำจะทำให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในไตรมาส 2 ปีนี้"

ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปที่ยังอยู่ระดับต่ำ เป็นผลจากราคาพลังงานและอาหารสดที่ต่ำ โดยราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้นแต่เงินบาทแข็งค่าทำให้ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ระดับต่ำ ในขณะที่ราคาอาหารสดทยอยลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว

ที่มากรุงเทพธุรกิจ