ประท้วงบริษัทหลอกให้ปลูกมันญี่ปุ่น

นครราชสีมา วันนี้ (2 เม.ย.61) เวลา 10.00 น. ที่บริษัท พี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เกษตรกรผู้ปลูกมันเทศญี่ปุ่นกว่า 50 คน เข้าเรียกร้องให้บริษัทฯ ชี้แจงและจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรหลังทำสัญญาเพาะปลูก และซื้อขายยอดพันธุ์เพื่อส่งให้กับทางบริษัทฯ แต่ไม่ได้รับเงิน โดยบริษัทฯอ้างว่า "จะรับซื้อผลผลิตทุกยอดถึงที่และจ่ายเงินสด" ทำให้มีเกษตรกรได้รับความเสียหายกว่า 200 ราย รวมเงินกว่า 20 ล้านบาท โดยเป็นเกษตรกรในพื้นที่ 12 จังหวัด ประกอบไปด้วย นครราชสีมา, พิษณุโลก, ชัยภูมิ, ลพบุรี, ขอนแก่น, สระแก้ว, นครสวรรค์, สุพรรณบุรี, เพชรบูรณ์, ปราจีนบุรี, พิจิตร และร้อยเอ็ด

โดยก่อนหน้านั้น นางสาวพบพร พิภพโยพิณกุล ผู้จัดการบริษัท พี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด และนายธนกฤต ผันสำโรง วิทยากรให้ความรู้แก่เกษตรกร ลงพื้นที่ไปยังแต่ละจังหวัดเพื่อชักชวนเกษตรกร และมีการจัดอบรมให้ความรู้การปลูกมันเทศญี่ปุ่นจำนวน 2 สายพันธ์ได้แก่ พันธุ์โอกินาว่า และพันธุ์เบนิฮารุกะ เพื่อเอายอดพันธ์ส่งขายกลับคืนให้ทางบริษัทฯ โดยเกษตรกรจะต้องซื้อยอดพันธุ์กับทางบริษัทฯ ในราคายอดละ 10 บาท โดย 1 ยอด จะสามารถนำไปปลูกต่อ แตกยอดได้อีกจำนวน 10-20 ยอด และทางบริษัทฯ อ้างว่าจะรับซื้อคืนทุกยอดหากมีความสมบูรณ์และมีความยาว 30 เซนติเมตร ซึ่งจะรับซื้อคืนในราคายอดละ 4.50 บาท และจะนำรถไปรับผลผลิตของเกษตรกรถึงแปลงเพาะปลูก อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีการส่งพนักงานมาลงพื้นที่ตรวจแปลงเกษตรของเกษตรกรในขณะเพาะปลูก จึงทำให้เกษตรกรเกิดความเชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้จะได้รับกำไรดีจริง


แต่เมื่อเกษตรกรทำการเพาะปลูกได้ผลผลิตตามที่ต้องการ ทางบริษัทฯ กลับแจ้งว่าให้เกษตรกรนำผลผลิตมาส่งเองยังบริษัทฯ และจะให้เป็นค่าน้ำมันรถ เกษตรกรจึงขนผลผลิตมายังบริษัทฯ แต่กลับไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่กล่าวอ้างไว้ทีแรก เมื่อสอบถามไปยังบริษัทฯ กลับแจ้งว่าผลผลิตของเกษตรกรนั้นเน่าเสียกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องตัดยอดออก และค่าน้ำมันจะให้เพียงกิโลเมตรละ 1 บาท ส่วนเกษตรกรในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ไม่มีการให้ค่าน้ำมันแต่อย่างใด จึงทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ทางบริษัทฯ ชี้แจงกรณีดังกล่าวและจ่ายเงินค่าตอบแทน เนื่องจากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บางรายต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อทำการเกษตรในครั้งนี้

นางธัญชนก ฤทธิ์บำรุง อายุ 51 ปี ผู้ประสานงานระหว่างเกษตรกรกับบริษัทพี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด และเกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ได้เข้ามาเป็นผู้ประสานงานระหว่างเกษตรกรและบริษัทฯ อีกทั้งยังเป็นเกษตรกรที่เพาะปลูกมันเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ได้รับคำสั่งจากบริษัทฯ ให้ดูแลการลงพื้นที่คลุกคลีกับเกษตรกรในหลายพื้นที่ ทนเห็นเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนไม่ไหว จำเป็นต้องพาเกษตรกรในหลายพื้นที่มายังบริษัทฯ เพื่อทำการเจรากัน โดยในวันนี้ทางบริษัทฯ ได้เข้ามาเจรจากับเกษตรกร แต่ก็ยังไม่ได้รับการชี้แจงแต่อย่างใด เหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมา อย่างเช่นในเรื่องของการจ่ายเงินค่าตอบแทน ทางบริษัทฯ ก็ได้ขอเลื่อนไปหลายครั้ง

นางสาวสกุลวงค์ สุขอยู่ อายุ 35 ปี อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ทำการเพาะปลูกยอดพันธุ์มันเทศญี่ปุ่นและนำมาส่งให้กับทางบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธุ์ 2561 จำนวน 219 มัด รวม 23,995 ยอด เป็นเงิน 107,977 บาท และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 อีกจำนวน 765 มัด รวม 80,325 ยอด เป็นเงิน 361,462 บาท รวมทั้งสิ้น 469,439 บาท และบริษัทฯ ได้รับผลผลิตไว้รวมถึงเอกสารการซื้อขายทุกอย่างแล้ว และยังแจ้งว่าจะโอนเงินเข้าให้ภายหลัง ต่อมาเมื่อสอบถามไปยังบริษัทฯ ได้มีการผัดวันและขอเลื่อนการจ่ายเงินออกไป จึงไม่มีการโอนเงินจริง โดยอ้างว่าเอกสารยังไม่มีการสรุป ยังไม่สามารถเช็คยอดได้ ทั้งที่เวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้ว และเกษตรกรบางรายที่ได้รับเงินค่าตอบแทนไป ก็โดนหักไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อ้างว่าผลผลิตเน่าเสีย เมื่อเกษตรกรนำผลผลิตไปส่งที่บริษัทฯ ทางบริษัทฯ ไม่มีการตรวจเช็คผลผลิตแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ตนได้ทำสัญญาเพาะปลูกกับทางบริษัทฯ ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 และมั่นใจว่าต้องได้ค่าตอบแทนเนื่องจากมีวิทยากรมาให้ความรู้ถึงในพื้นที่และน่าเชื่อถือ อีกทั้งราคาที่บริษัทฯ รับซื้อเป็นราคาที่สูง ในราคา 4.5 บาท ต่อ 1 ยอด คาดว่าจะเพาะปลูกได้ผลผลิตจำนวนมาก และได้ค่าตอบแทนงามแน่นอน ซึ่งขณะนี้ตนอยากจะขอสิทธิ์ของตนเองคืน ขอค่าตอบแทนที่จะต้องได้รับ เพราะไปกู้หนี้ยืมสินผู้อื่นมาทำการเกษตรในครั้งนี้ อีกทั้งนำไปจ่ายค่าแรงคนงานที่จ้างมาทำการเกษตรอีกด้วย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าติดต่อไปยังบริษัท พี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด ต.โคกไทย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ทางบริษัทฯ ได้แจ้งว่า ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลและชี้แจงต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด ส่วนค่าตอบแทนของเกษตรกรแต่ละรายก็ได้เตรียมไว้ให้หมดแล้ว เกษตรกรที่มารวมตัวกันในครั้งนี้ไม่ยอมเข้ามาตกลงและเจรจากันด้วยดี โดยมีเพียงเกษตรกรบางส่วนในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ได้เข้ามาเจรจาและรับค่าตอบแทนไปแล้วเท่า