เมินสอบสวนปราบประท้วงกาซานองเลือด 

กองทัพอิสราเอลถูกตั้งคำถามจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน กรณีใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์บริเวณชายแดนกาซาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อย กลายเป็นวันนองเลือดที่สุดนับจากสงครามกาซาในปี 2557 ขณะปาเลสไตน์กล่าวหาทหารอิสราเอลว่ายิงผู้ประท้วงที่ไม่ได้มีท่าทีคุกคาม

อันโตนีโอ กูเตอร์เรส และ เฟอเดริกา โมเกรินี หัวหน้าด้านการต่างประเทศของสหภาพยุโรป เรียกร้องให้สอบสวนอย่างเป็นอิสระ
แต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ชื่นชมทหารที่ปกป้องชายแดนของประเทศ และโต้กลับนายกรัฐมนตรีเรเจบ ตอยิบ แอร์ดวนของตุรกี ที่วิจารณ์ว่าอิสราเอลโจมตีกาซาอย่างไร้มนุษยธรรม โดยผู้นำอิสราเอลทวิตว่า "กองทัพทรงจรรยาบรรณที่สุดในโลก จะไม่ยอมถูกเทศนาเรื่องศีลธรรมจากใครบางคนที่ทิ้งระเบิดใส่พลเมืองอย่างไม่เลือกหน้ามาเป็นเวลาหลายปี" ก่อนหน้านี้ ผู้นำอิสราเอลตราหน้าผู้นำตุรกีว่า ทิ้งระเบิดถล่มชาวเคิร์ด ต่อมา แอร์ดวนก็เรียกเนทันยาฮูกลับว่า ผู้ก่อการร้าย

ด้าน เอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวว่า การประท้วงเมื่อวันศุกร์ ไม่ใช่ งานคอนเสิร์ตวูดสต็อก ทั้งระบุว่าเสียงเรียกร้องให้สอบสวนอย่างเป็นอิสระ คือพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ อิสราเอลจะไม่ร่วมมือกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนไม่ว่าชุดไหน ทหารอิสราเอลทำในสิ่งที่ต้องทำ

กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ระบุว่า นอกจากมีผู้เสียชีวิต 16 คนแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 1,400 คน จำนวนนี้ 758 คนบาดเจ็บจากกระสุนปืน ที่เหลือโดนกระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ฝ่ายอิสราเอลไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่อิสราเอลระบุว่ายอดคนเจ็บจากกระสุนปืนสูงเกินจริง และในจำนวนผู้เสียชีวิต เป็นสมุนกาซา 10 คน

กองทัพอิสราเอลปกป้องว่าทหารยิงเฉพาะกรณีจำเป็น เมื่อมีคนปาก้อนหินและระเบิดเพลิงหรือกลิ้งยางรถยนต์ที่มีไฟลุกไม้เข้าใส่ทหาร นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังพยายามทำลายรั้วปิดล้อมกาซาและแทรกซึมเข้าอิสราเอล ทั้งยังกล่าวหาว่ามีควาพยายามยิงปืนใส่ทหารอิสราเอลที่ชายแดน