ปาฏิหาริย์!...ลูกสาวสายลับสองหน้าพูดได้แล้ว หลังโคมานาน 27 วัน

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียกำลังเตรียมจะปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และขับนักการทูต 60 คน อันเป็นการตอบโต้การสั่งขับนักการทูตรัสเซียทั่วโลกครั้งประวัติศาสตร์ ที่จุดชนวนโดยสหรัฐฯและอังกฤษ ขณะที่นายจอน ฮันต์สแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ณ กรุงมอสโคว์ ถูกเรียกเข้าพบนายเซอร์เก เรี้ยบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ เพื่อรับทราบแล้วเมื่อวันจันทร์ สหรัฐฯได้ขับนักการทูตรัสเซีย 48 คน ที่ประจำอยู่ ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี กับอีก 12 คน ที่ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก รวมถึงปิดสถานทูตกงสุล ที่นครซีแอทเทิล ก่อนที่แคนาดา ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ในยุโรป จะร่วมกันขับนักการทูตรัสเซียรวมแล้วกว่า 90 คน

นายลาฟรอฟ กล่าวว่า นักการทูตสหรัฐฯที่ถูกขับ เป็นผู้ที่ประจำอยู่ที่กรุงมอสโคว์ 58 คน และผู้ที่ประจำอยู่ที่สถานกุงสุลในเมืองเยกาเตรินเบิร์กอีก 2 คน ส่วนสถานกงสุลสหรัฐฯ ในนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จะถูกปิดในวันที่ 31 มีนาคม โดยนักการทูตเหล่านี้ มีเวลาเตรียมตัวเพื่อออกไปให้พ้นแผ่นดินรัสเซีย ภายในวันที่ 5 เมษายน และหลังขับนักการทูตสหรัฐฯแล้ว รัสเซียก็จะขับนักการทูตของประเทศอื่นๆ ในจำนวนที่เท่ากันแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ว่า "ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯที่คอยยุยงและโหมกระพือคำพูดให้ร้ายประเทศของเรา คิดทบทวนและยังยั้งการกระทำที่รังแต่จะทำลายความสัมพันธ์ของสองประเทศ"

การขับนักการทูตรัสเซียครั้งมโหฬาร เริ่มเมื่อวันที่ 14 มีนาคม เมื่ออังกฤษประกาศขับนักการทูตรัสเซียก่อน 23 คน โดยอ้างว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการวางยาพิษอดีตสายลับสองหน้ากับลูกสาว บนแผ่นดินอังกฤษ ด้วยก๊าซพิษทำลายประสาท "โนวิช็อค" แต่รัสเซียปฏิเสธและเรียกร้องให้อังกฤษหาหลักฐานมาพิสูจน์ แต่ก็ยังไม่ได้รับจนกระทั่งถึงตอนนี้ ที่เรื่องราวลุกลามไปมาก