1.ราเยวัช จะเหมาะกับทีมชาติไทย
การเข้ามาคุมทีมต่อจาก ซิโก้ ทำให้ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบียถูกตั้งคำถามว่าดีพอจะสานต่อความสำเร็จของกุนซือจอมตีลังกาได้หรือไม่ โดยในคิงส์คัพครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทีมชาติไทยพัฒนาไปมากขึ้นแค่ไหน ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกเครดิตให้ โค้ชมิโลวาน และทีมงานที่ทำงานอย่างหนัก สามารถยกระดับช้างศึกให้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกขั้น รูปแบบการเล่นดูมีความแน่นอนมากขึ้น สามารถสู้กับทีมที่เหนือกว่าได้อย่างสูสี และทำให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ดูมีลุ้นในศึกเอเชี่ยน คัพรอบสุดท้ายในปีนี้
2.มุ้ย และ เจ แสดงถึงสิ่งได้มาจากญี่ปุ่น
สองนักเตะที่โดดเด่นในปีนี้คงหนีไม่พ้น ธีรศิลป์ แดงดา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่โชว์คลาสสฟุตบอลที่ พัฒนาขึ้นไปมากโดยในนัดชิงเจ้ามุ้ย สามารถครองบอลเอาชนะผู้เล่นสโลวาเกีย ได้หลายครั้ง รวมถึง เจ ชนาธิป ที่สามารถเลี่ยงหลบและปั่นป่วนแนวรับฝั่งตรงข้ามได้ทั้งเกม จนกุนซือสโลวาเกีย ต้องออกปากเอ่ยชมว่า สองคนนี้คือผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามและจะมีอนาคตที่ดีแน่นอน
3.ฟูลแบ็คสองข้าง ยังมีปัญหา
แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะโดดเด่น แต่ยังมีจุดอ่อนให้เห็นในตำแหน่งฟูลแบ็คสองข้าง ที่โดนเจาะจนพรุนไปหมด การขาดทริสตอง โด ในตำแหน่งแบ็คขวาไป ประกอบกับนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ถอนตัว โอกาสจึงมาตกกับฟิลิป โรลเลอร์แบ็คลูกครึ่งจากราชบุรี มิตรผล เอฟซี แต่ผลงานก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนด้านซ้าย ราเยวัช เลือกจะขยับเอา ธีราทร บุญมาทัน ไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง ทำให้พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา ได้ลงเล่นแทน แต่ก็ยังไม่สามารถแสดงผลงานเท่ากับที่ธีราทร ทำไว้ นี่จึงเป็นอีก 1 การบ้านของโค้ชมิโลวาน ที่จะหาทางแก้ไขต่อไป
4.คู่เซนเตอร์ที่เริ่มไว้ใจได้
พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว สองกองหลังโนเนมที่ ราเยวัชเลือกใช้ตั้งแต่เข้ามาคุมทีม ค่อยๆทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะถูกตั้งคำถามว่า สองคนนี้ดีพอหรือยัง แต่ผลงานในสนามที่ผ่านมา ทำให้ตอบได้เลยว่าททั้งคู่ คือปราการหลัง ให้ทีมชาติไทยในยุคราเยวัช
5.แฟนบอลไทยไม่สิ้นศรัทธา
ในช่วงหลังมานี้ที่ผลงานทีมชาติไทย ไม่ค่อยสู้ดีนัก อาจมีแฟนบอลหายหน้าหายตาไปบ้าง แต่เมื่อผลงานของทีมชาติไทยกลับมาปังอีกครั้ง แฟนบอลก็พร้อมจะกลับมาเชียร์สุดใจเสมอ โดยบรรยากาศแฟนบอลในนัดชิงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คือภาพที่สะท้อนออกมาได้เป็นอย่างดีว่า ช้างศึกเบอร์ที่ 12 แข็งแกร่งมากแค่ไหน