"ช้างศึก" พ่าย "สโลวัก" 2-3 ชวดป้องกันแชมป์คิงส์คัพ
ทีมชาติไทย ไม่สามารถรรักษาแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันเอาไว้ได้ เมื่อเกมนัดชิงพ่ายให้กับสโลวาเกีย 3 - 2 อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งเฮดโค้ชทีมชาติไทย มิโลวาน ราเยวัช พอใจกับผลงานทีมที่สู้กับชาติชั้นนำได้
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงสคัพ" ครั้งที่ 46 รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย อันดับ 129 ของโลก พบกับ สโลวาเกีย อันดับ 29 ของโลก โดยทีมไทย เป็นแชมป์ 15 สมัย และเป็นแชมป์มา 2 สมัยติดต่อกัน สำหรับเกมนัดชิง ที่ราชมังคลากีฬาสถานได้รับความสนใจจากแฟนบอลที่เข้าชมกว่า 45,000 คน ต่างไปจากเกมนัดแรกที่พบกับกาบอง ที่ทำยอดผู้ชมอยู่ที่ 25,781 คน เกมนัดนี้ เฮดโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย มิโลวาน ราเยวัช วางตัว 11 คนแรก เป็นผู้เล่นชุดเดียวกันกับที่พบกาบอง
เริ่มมา 10 นาที สโลวาเกีย ขึ้นนำก่อน จาก โรเบิร์ต มัก ที่ กระชากหนี ฟิลิป โรลเลอร์ ก่อนส่งต่อให้ อองเดรจ์ ดูดา จากแฮร์ธา เบอร์ลิน ยิงเข้าไป สโลวาเกีย ออกนำก่อน 1-0 จากนั้นเป็น นาทีที่ 34 สโลวาเกีย มาบวกเพิ่มประตูที่2 จาก โรเบิร์ต มัก เกมต่อเนื่องไปจนถึงนาทีที่ 42 ไทย มาได้ประตู คืน เป็นจังหวะที่ ผู้เล่นสโลวาเกีย ส่งบอลกลับไปให้ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสลาเกีย ที่เตะบอลไปเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีรศิลป์ ได้ส่งต่อให้ จักรพันธ์ แก้วพรม ยิงเข้าไป จบครึ่งแรก สโลวาเกีย นำไทย 2-1
เกมในครึ่งหลัง นาทีที่ 68 แนวรุก สโลวาเกีย ริก ปาซินดา เล่นชิ่งกับ ดูดา ก่อน ปาซินดา ปั่นด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไป ใก้สโลวาเกีย นำไปเป็น 3-1 นาทีที่ 79 ช้างศึก มาได้ประตู จาก พรรษา เหมวิบูลย์ จบครบ 90 นาที เป็น สโลวาเกีย ที่เอาชนะไปไป 3-2 เป็นแชมป์สมัย 2 ส่วนไทย ได้รองแชมป์
เฮดโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย มิโลวาน ราเยวัช บอกว่า ภูมิใจกับการทุ่มเทของทุกคนภายในทีม สโลวาเกีย เล่นได้เร็วและแข็งกร่ง แต่เหรียญที่ได้รับวันนี้ เปรียบเสมือนเหรียญทอง ทีมชาติไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการพัฒนาแต่ที่ผ่านมา มีเวลาเตรียมทีมน้อย แม้ว่าผลการแข่งขันนัดนี้ไทยจะแพ้ แต่ก็สามารถสร้างความลำบากให้กับทีมที่มีอันดับโลกห่างกับไท เป็น 100 อันดับ ถือเป็นการต่อสู้ยอดเยี่ยม และน่าพึงพอใจ ///