ประธานาธิบดีสี กล่าวปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติครั้งที่ 13 ด้วยการแสดงจุดยืนชาตินิยมอย่างแข็งขันว่า การธำรงรักษาและพัฒนาระบอบสังคมนิยมตามแบบฉบับของจีนเท่านั้นที่จะทำให้จีนชุบฟื้นความยิ่งใหญ่ของชาติได้ และการปกป้องอธิปไตยและบูรภาพทางดินแดนเป็นจุดมุ่งหมายร่วมกันของลูกหลานชายหญิงทุกคนในจีน พร้อมกับย้ำเป้าหมายการรวมชาติจีนอย่างสันติ และการขัดขวางความพยายามใดๆ ที่จะแบ่งแยกจีน
ผู้นำจีน กล่าวว่า รัฐบาลจะยึดมั่นหลักการจีนเดียว และทำให้ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันดำเนินไปอย่างสันติ ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเพิ่มการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกัน แต่การกระทำใดๆ ที่จะแบ่งแยกจีนจะต้องล้มเหลว ได้รับเสียงประณามและเผชิญการลงโทษที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้เขา บอกอีกว่า ประชาชนจีนและประเทศชาติมีความเชื่อแบบเดียวกันว่า ไม่ได้รับอนุญาตและเป็นไปไม่ได้ที่จะแบ่งแยกดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไปจากจีน
ส่วนเรื่องเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊านั้น ประธานาธิบดีสีให้ความมั่นใจว่าจีนจะยังยึดหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ที่ให้อำนาจปกครองตนเองบางส่วนในสองเมืองนี้ แต่ก็เรียกร้องให้ประชาชนในสองเขตนี้เพิ่มสำนึกของความเป็นชาติและความรู้สึกรักชาติต่อจีนให้มากขึ้น
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของไต้หวัน ออกแถลงการณ์วันนี้ตอบโต้ถ้อยแถลงของผู้นำจีน โดยบอกว่า ไต้หวันเป็นรัฐอธิปไตย และจีนไม่มีสิทธิที่จะแสดงความเห็นอย่างไร้ความรับผิดชอบเกี่ยวกับกิจการทางการทูตของไต้หวัน
คำขู่ของจีนมีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมาย Taiwan Travel Act เมื่อวันศุกร์ ซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐและไต้หวันสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปมาหาสู่เพื่อพบปะพูดคุยได้ ซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ขึ้นอีกขั้น และสร้างความโกรธเคืองให้กับจีนที่ถือว่าไต้หวันเป็นเพียงมณฑลหนึ่งของจีน