"ปูติน" กวาดคะแนนเสียงเลือกตั้งท่วมท้น

การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย ถูกสื่อตะวันตกเรียกว่าเป็น " Vladimir Putin-style"ซึ่งหมายถึงมีการโกงทุกรูปแบบที่นักมวยปล้ำ, แม่ชี และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ถูกจับได้ว่าช่วยกันโกงเพื่อให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน วัย 65 ปี  กวาดคะแนนเสียงอย่างถล่มทลายมากกว่า 75% เพื่ออยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 6 ปี ซึ่งจะทำให้เขาครองอำนาจจนถึงอายุ 71 ปี แม้จะมีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ว่า ให้การเลือกตั้งครั้งนี้ดำเนินไปอย่างเสรีและยุติธรรม และมีขึ้นหลังจากเอ็กซิท โพลล์ ชี้ว่า ปูตินจะได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 73.9%
หลังคว้าชัยชนะ ปูตินกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนที่จตุรัสแดงและบอกว่า ให้คิดถึงอนาคตและมาตุภูมิอันยิ่งใหญ่ และหัวเราะกลบเกลื่อนหลังถูกถามว่า เขาคิดจะลงสมัครอีกหลังปี 2567 หรือไม่ โดยพูดติดตลกว่า ให้นับดูว่าเขาจะนั่งอยู่ในอำนาจจนถึงอายุ 100 ปีหรือไม่ แต่ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่า จะใช้การดำรงตำแหน่งในวาระใหม่ เสริมสร้างรัสเซียให้แข็งแกร่งจากการคุกคามของตะวันตก และยกระดับมาตรฐานการครองชีพ 
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ปูตินทิ้งห่างคู่แข่งคนอื่นๆ อย่างขาดลอย โดยปาเวล กรูดินิน จากพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ได้แค่ 11.2%  ส่วนคนอื่นๆ เช่น วลาดิมีร์ ซิรินอฟสกี้ จากพรรคชาตินิยมสุดโต่ง "เสรีประชาธิไตย" ได้ 6.7% และคเซเนีย ซับชัค จากรายการเรียลลิตี้ โชว์ ได้ 2.5% 
คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัสเซีย รายงานว่า มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 51.9%จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกือบ 111 ล้านคน ขณะที่ปูตินต้องการคะแนนเสียงเกิน 50% เพื่อชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งผลที่ออกมาหมายความว่า ไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งรอบสอง 
แม้จะลงเอยอย่างสวยงาม แต่ก็ไม่วายมัวหมองด้วยเรื่องไม่ชอบมาพากลตามหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยเฉพาะการแฉคลิปวิดีโอ ที่แสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มแม่ชีไปลงคะแนนเสียง และมีหัวหน้าไปคอยกำกับดูแลให้พวกเธอลงคะแนนให้ปูติน // เจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งเอาบัตรไปยัดใส่หีบเลือกตั้งหน้าตาเฉย ใช้ลูกโป่งบังกล้องวงจรปิดในบางหน่วยเลือกตั้ง และใช้นักมวยปล้ำเข้าไปก่อกวนและอีกหลายรูปแบบ แม้ว่าจะมีผู้สังเกตการณ์ราว 145,000 คน รวมทั้งชาวต่างชาติราว 1,500 คน จึงไม่แปลกที่มีการร้องเรียนเรื่องการโกงเลือกตั้งเป็นร้อยๆ กรณี 
ส่วนเรื่องซื้อเสียง ก็มีรายงานว่า รัฐบาลทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อชัยชนะของปูติน รวมทั้งการแจกตั๋วคอนเสิร์ตให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก และหน่วยงานสาธารณสุข เสนอตรวจมะเร็งฟรีในบางหน่วยเลือกตั้้งด้วย จึงไม่แปลกที่มีคนแห่กันออกไปใช้สิทธิ์มากกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2555