svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

18 ปี กับก้าวต่อไปของ "วลาดิมีร์ ปูติน"

15 มีนาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตอนที่วลาดิมีร์ ปูติน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในรองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ที่มีมากถึง 3 คน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปี 2542 ก่อนจะขึ้นเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีในวันเดียวกัน ไม่มีใครคาดคิดว่า เขาจะกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะในตอนนั้น อดีตประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซิน ได้ชื่อว่า เป็นผู้นำที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยและปลดนายกรัฐมนตรีเป็นว่าเล่น แต่การอยู่ยงคงกระพันมาถึง 18 ปี ก็ไม่ใช่เพราะโชคช่วย เพราะถ้าไม่แกร่งจริง ก็อาจมาไม่ถึงวันนี้


จุดเริ่มต้นการก้าวสู่อำนาจของปูติน เกิดขึ้นเมื่อสภาดูมาสนับสนุนการแต่งตั้งเขาเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ปี 2542 ด้วยคะแนนเสียง 233 เสียง คัดค้าน 84 เสียง และงดออกเสียง 17 เสียง ทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ภายในเวลาไม่ถึง 18 เดือน ตอนนั้นทุกคนพากันมองว่า ปูตินก็เหมือนนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ของเยลต์ซิน ที่ไม่มีโอกาสเลือกรัฐมนตรีเอง แต่อยู่ในดุลพินิจของฝ่ายบริหารของเยลต์ซิน

ต่อมา เยลต์ซินซึ่งป่วยหนักและติดเหล้า ได้สร้างความตกตะลึงด้วยการประกาศอำลาตำแหน่ง ในวันส่งท้ายปีเก่าปี 2542 ทำให้ปูตินก้าวขึ้นมารักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศ ที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลที่สุดในโลกโดยอัตโนมัติ และแม้ฝ่ายตรงข้ามของเยลต์ซินกับกลุ่มคนที่หวังตำแหน่งนี้ จะกีดกันปูตินอย่างหนักแต่ภาพลักษณ์ของผู้นำที่รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย ยึดมั่นต่อนโยบายยอมหักไม่ยอมงอต่อกบฎเชเชนในเชชเนีย กลายเป็นแรงผลักคะแนนนิยมของเขาให้พุ่งเกินหน้าคู่แข่ง และเอาชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีหลังจากนั้นอย่างง่ายดาย

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 18 ปีแล้ว เป็นไปได้ว่า อดีต KGB วัย 65 ปีผู้นี้ ยังจะอยู่ในอำนาจต่อไปจนถึงปี 2567 ผ่านการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ เพื่อกอบกู้ความยิ่งใหญ่ของรัสเซียบนเวทีโลกด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชอง โดยเฉพาะการผ่านผู้นำสหรัฐฯ มาแล้วถึง 3 คน คือ จอร์จ ดับเบิลยู บุช, บารัค โอบามา และล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ แม้จะมีสถานะเป็นปรปักษ์กับตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ หลังการผนวกดินแดนไครเมีย กับการแทรกแซงสงครามในซีเรียก็ตาม

นอกจากจะมีภาพลักษณ์ของบุรุษที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการขี่ม้า ถอดเสื้อตกปลาปล่อยเสือเข้าป่า และลงไปนั่งในเรือดำน้ำแล้ว เขายังขึ้นทำเนียบบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของนิตยสารฟอร์บส ติดต่อกันถึง 4 ปี ขณะที่ล่าสุด บรรดาสำนักจัดทำโพลล์ที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาล ชี้ว่า เขาจะกวาดคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งถึง 70%แม้จะไม่มีโฆษณาทางโทรทัศน์ หรือร่วมดีเบทกับผู้สมัครคนอื่นๆ
สำหรับผู้สนับสนุน ปูตินเปรียบเสมือนผู้มากอบกู้ศักดิ์ศรีและคุณค่าดั้งเดิมที่สูญเสียไปอย่างน่าอัปยศ ในยุคที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย ขณะที่ศัตรูโทษว่า เขาลากมาตุภูมิให้ห่างไกลจากประชาธิปไตย เขาสามารถปกป้องชีวิตส่วนตัวเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากต้องการจะเปิดเผยเอง เช่น เขาหย่าจากลุดมิลา ภรรยาที่ครองคู่กันมานาน3 ทศวรรษ เมื่อปี 2556 แต่ข่าวลือว่าเขามีผู้หญิงคนใหม่ รวมทั้งอดีตนักกีฬายิมนาสติก ไม่เคยได้รับการยืนยัน

ตอนที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง เมื่อปี 2551 เขาส่งมอบอำนาจให้ดมิทรี เมดเวเดฟขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ส่วนตัวเองไปเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่า ก็แค่เปลี่ยนตำแหน่ง แต่อำนาจยังคงอยู่ในมือ ต่อมาปี 2555 เขากลับไปเป็นประธานาธิบดี ทำให้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดี 14 ปี และนายกรัฐมนตรี 4 ปี

ปูตินเกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานในเลนินกราด หรือปัจจุบัน คือ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2595 เขาเคยพูดว่า สิ่งหนึ่งที่ข้างถนนในเลนินกราดสอนเขาคือ "ถ้าการต่อสู้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณต้องลงมือก่อน" เขาเคยบอกนักสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง โอลิเวอร์ สโตนว่า "ผมไม่ใช่ผู้หญิง ดังนั้นผมจึงไม่มีวันที่แย่ของเดือน"

ตอนที่เขาถูกผู้นำโลกคนอื่นๆ โดดเดี่ยว ในระหว่างการประชุม G8 เมื่อปี 2557 เขาได้แสดงทัศนะอย่างไม่ยี่หระว่า "บางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องโดดเดี่ยวเพื่อพิสูจน์ว่าเราถูกต้อง" หลังมีรายงานจากนิตยสาร "Fortune" ว่า เขามีทรัพย์สินมากถึง 4 หมื่นล้านเขาก็บอกเรียบๆ ว่า "ผมเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก เพราะผมเก็บอารมณ์แทนเงินได้เก่ง"

logoline