สภาจีนรับรอง "สี จิ้นผิง" ผู้นำตลอดชีพ

ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ลงมติด้วยคะแนนเห็นชอบ 2,958 เสียงคัดค้าน 1 เสียงและงดออกเสียง 3 เสียง อนุมัติการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ยกเลิกการจำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่เกิน 2 สมัย หรือ 10 ปี ปิดฉากระบบผู้นำร่วมและการสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นระบบตามที่เติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำสูงสุดของจีนริเริ่มไว้เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองจากระบบปกครองโดยผู้นำคนเดียว แบบที่เคยเกิดขึ้นหลังการอสัญกรรมของเหมา เจ๋อตง

การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกในรอบ 14 ปีนี้จะทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง วัย 64 ปีที่จะพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองที่มีวาระ 5 ปีในปี 2566 สามารถดำรงตำแหน่งได้ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อผลักดันวิสัยทัศน์และนโยบายที่จะทำให้จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกและมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกได้ภายในปี 2593

นอกจากนี้ที่ประชุมสภายังมีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยบรรจุปรัชญาการเมืองของสี จิ้นผิงเกี่ยวกับสังคมนิยมแบบจีนยุคใหม่ ไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการตามที่พรรคคอมมิวนิสต์มีมติเห็นชอบในการประชุมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว

พรรคคอมมิวนิสต์ ชี้แจงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องวาระตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อให้สอดคล้องกับอีกสองตำแหน่งสำคัญที่สี จิ้นผิงเป็นอยู่ คือ เลขาธิการพรรคและประธานคณะกรรมการการทหารกลาง ที่ไม่มีการจำกัดวาระ

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สี จิ้นผิง ถูกบางคนขนานนามว่าเป็น "ประธานทุกสรรพสิ่ง"หรือ Chairman of Everything เพราะเขามีอำนาจคุมหน่วยงานต่างๆในพรรคที่ดูแลทั้งนโยบายเศรษฐกิจ ต่างประเทศ ความมั่นคง และอื่นๆ นอกจากนี้มีเสียงวิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่า สี จิ้นผิงจะเป็นจักรพรรดิยุคใหม่ และจีนจะกลายเป็นเกาหลีเหนือที่สมาชิกจากตระกูลเดียวครองอำนาจมาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ จนทำให้ทางการจีนบล็อกคำว่า "ไม่เห็นด้วย" และ "จักรพรรดิ" ในสังคมออนไลน์