เปิดตัว "ช้างศึก เบอร์ 12" คอลเลคชั่นใหม่
วันที่ 7 มีนาคม 2561 เวลา 11.00 น. ณ ลาน ควอเทียร์ แกลอรี ชั้น เอ็ม ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชันแนล จำกัด โดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง ผู้สนับสนับสนุนกีฬาฟุตบอลทีมชาติอย่างเป็นทางการ จัดงานแถลงข่าวครั้งแรกของการเก็บเสื้อ "ช้างศึกเบอร์ 12" พร้อมเปิดตัวเสื้อช้างศึกเบอร์ 12 คอลเลคชั่นใหม่ เพื่อให้กับแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ ได้สวมใส่และส่งเสียงเชียร์ให้กับทีมช้างศึก ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 46
ภายในงานดังกล่าว นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย คุณธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมฯฝ่ายสื่อสารองค์กร, คุณ ธรณินทร์ เกียรติชัย ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชันแนล จำกัด, คุณ วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด และนักฟุตบอลทีมชาติไทย อาทิ มงคล ทศไกร, มิก้า ชูนวลศรี และ ธีรเทพ วิโนทัย เป็นต้น
ภายในงานแถลงข่าว พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องขอขอบคุณบริษัท ช้างอินเตอร์เนชันแนล จำกัด ที่ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลและกีฬาอื่นๆมาโดยตลอด สมาคมฯกับช้าง ทำงานร่วมกันมายาวนาน ครั้งนี้ทางช้างมีแคมเปญดีๆสำหรับแฟนบอลชาวไทย เพื่อเก็บเสื้อช้างศึกเบอร์ 12 จะเห็นได้ว่าเราให้ความสำคัญกับแฟนบอลเป็นอย่างว่า ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจหรือเสียงเชียร์ ผ่านหน้าจอทีวีและในสนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยต้องการมากที่สุด"
"เบอร์ 12 ที่ต้องใช้สำหรับเป็นเสื้อกองเชียร์ในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 นั้น จะไม่มีนักกีฬาคนไหนสวมใส่ เพราะเราจะเก็บเบอร์นี้ไว้ให้แฟนบอลชาวไทย ซึ่งเราหวังว่าแฟนบอลชาวไทยจะกลับมาเชียร์นักฟุตบอลทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นกองเชียร์ที่สวมเสื้อเบอร์ 12 แล้ว ก็อยากให้มาเป็นแรงเชียร์แรงใจให้กับนักฟุตบอลทีมชาติไทย"
"สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 นี้ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งที่นักฟุตบอลทีมชาติไทยจะได้รับนั้นคือ ประสบการณ์ที่จะได้รับจากแข้งระดับโลก พร้อมกันนั้น แฟนบอลชาวไทยจะได้มีโอกาสเชียร์ทีมชาติไทยที่จะลงสนามต่อกรกับทีมระดับโลก"
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 รอบแรกจะมีขึ้นวันที่ 22 มีนาคม 2561 คู่แรก ทีมชาติสโลวาเกีย พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 16.30 น. คู่ที่สอง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกาบอง เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทั้ง 2 คู่ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 19.30 น. ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 แข่งขันเวลา 16.30 น. โดยเกมทุกนัดจะถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี
