อัน ฮี-จุง วัย 54 ปี ซึ่งได้คะแนนเป็นอันดับสองรองจากมุน แจ-อิน ในการเสนอตัวเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคประชาธิปไตยเมื่อปีที่แล้ว เผชิญจุดจบทางการเมือง หลังคิม จี-อึน อดีตเลขานุการสาว วัย 33 ปี ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เจทีบีซีเมื่อคืนวันจันทร์ว่า เตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีกับนายอันด้วยข้อกล่าหาว่าเขาข่มขืนเธอ 4 ครั้งในช่วงเวลา 8 เดือนระหว่าง มิ.ย.2560-ก.พ.ปีนี้ โดยเกิดขึ้นขณะไปทำงานในต่างประเทศด้วยกัน และเขายังล่วงละเมิดทางเพศเธออีกในหลายโอกาส
เธอบอกด้วยว่า ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องนี้คือ เขาเรียกเธอไปพบที่ห้องทำงานในคืนวันที่ 25 ก.พ.เพื่อขอโทษ แต่กลับข่มขืนเธออีก แม้ว่ากระแส #MeToo ที่ผู้หญิงออกมาเปิดเผยเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศจากคนดังในหลากหลายอาชีพ เริ่มเกิดขึ้นในเกาหลีใต้เมื่อเดือน ม.ค.แล้ว และกระแสดังกล่าวทำให้เธอกล้าเปิดเผยความจริง
หลังการให้สัมภาษณ์ของคิม พรรคประชาธิปไตยเรียกประชุมฉุกเฉินและมีมติไล่เขาออกจากพรรคโดยให้มีผลทันที จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงนายอันประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดชุงชองใต้และถอนตัวจากเวทีการเมือง รวมทั้งโพสในเฟซบุ๊กเพื่อขอโทษทุกคน โดยเฉพาะอดีตเลขาฯ พร้อมทั้งขอให้ทุกคนให้อภัยสำหรับการกระทำที่โง่เขลา และยอมรับว่าเป็นความผิดของเขาทั้งหมด
พฤติกรรมอื้อฉาวทำให้อนาคตทางการเมืองของนายอันต้องดับวูบ ทั้งที่เขาเป็นนักการเมืองที่มีอนาคตไกล และถูกคาดหมายว่าจะได้เป็นหัวหน้าพรรค หรือ ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคคนต่อไป
ขณะที่ตำรวจเริ่มเปิดการสอบสวนเบื้องต้นต่อนายอันแล้ว และผู้สนับสนุนของเขา ที่ผิดหวังและโกรธแค้นได้โพสระบายในสื่อสังคมออนไลน์ และคนหนึ่งถึงขั้นขว้างไม้เบสบอลใส่บ้านพักของนายอันและทุบกระจกหน้าต่างด้วย