svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เกาหลีเหนือ-ใต้ ตกลงประชุมสุดยอดผู้นำเดือนหน้า

06 มีนาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังการเยือนเกาหลีเหนือของคณะทูตพิเศษเกาหลีใต้ สองเกาหลีตกลงที่จะจัดประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกันระหว่างสองประเทศในเดือนหน้า

สื่อทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า ผู้นำคิม จอง อึน ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น หลังจากเขาได้พบกับคณะทูตพิเศษเกาหลีใต้ที่เดินทางเยือนเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่คิม จอง อึน ก้าวขึ้นสู่อำนาจปี 2554

การเยือนของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความสัมพันธ์อย่างรวดเร็วระหว่างสองเกาหลี หลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และคิม โยจอง น้องสาวของคิม จองอึน ที่ได้ร่วมชมพิธีเปิดโอลิมปิก ได้ส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของนายคิม ให้แก่ประธานาธิบดีมุน แจ อิน เพื่อเชิญให้ไปเยือนเกาหลีเหนือ

การเยือนเกาหลีเหนือของคณะทูตพิเศษเกาหลีใต้ในครั้งนี้ นำมาสู่ข้อตกลงที่จะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกันในเดือนหน้า ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 3 ของสองเกาหลี โดยจะจัดขึ้นที่เขตปลอดทหาร หมู่บ้านปันมุนจอม

Korean Central News Agency สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมให้การต้อนรับคณะทูตพิเศษเกาหลีใต้อย่างอบอุ่นและยังพูดคุยอย่างเปิดใจกับอีกฝ่าย และการพบปะครั้งนี้ได้หยิบยกประเด็นสำคัญขึ้นมาหารือ โดยผู้นำเกาหลีเหนือได้รับทราบความมุ่งหมายของผู้นำเกาหลีใต้ที่อยากจัดการพบปะสุดยอดระหว่างสองชาติ และทั้งสองฝ่ายก็บรรลุข้อตกลงที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังระบุว่านายคิม พูดอย่างตรงไปตรงมากับคณะทูตพิเศษของเกาหลีใต้ถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะเกิดสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ทั้งยังระบุอีกว่าการพูดคุยเชิงลึกสำหรับการติดต่อพูดคุยกับเกาหลีใต้เกิดขึ้นแล้ว

การพูดคุยบนโต๊ะอาหารนี้กินเวลา 4 ชั่วโมง โดยมีทั้ง รี ซ็อล-จู ภรรยาของนายคิม ที่ไม่ค่อยออกงานทางการ และคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม ร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำนี้ด้วย ขณะที่คณะทูตของเกาหลีใต้ มีทั้ง นายชุง อืย-ยอง ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ และนายซู ฮุน หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง

เกาหลีใต้สงวนท่าทีที่จะพูดถึงการเยือนเกาหลีเหนือในครั้งนี้ กระทั่งเดินทางกลับมาถึงกรุงเซลในช่วงบ่ายวันนี้ และทำเนียบประธานาธิบดีให้ความเห็นเพียงสั้นๆ ต่อสื่อมวลชนว่า เป็นการพูดคุยที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ และผลที่ออกมาก็ไม่น่าผิดหวัง  และสื่อได้ถามต่อไปว่า เกาหลีใต้ได้หยิบยกประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์มาพูดคุยด้วยหรือไม่ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ตอบเพียงว่า "คาดว่าจะเป็นอย่างนั้น"

ด้านประธานาธิบดีมุน แจ-อิน แถลงหลังการเยือนเกาหลีเหนือของคณะทูตพิเศษว่า เกาหลีใต้ต้องมีส่วนร่วมในการเจรจากับเกาหลีเหนือเพื่อให้ปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็ย้ำว่าเกาหลีใต้ต้องเตรียมพร้อมต่อภัยคุกคามทั้งอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ และเขาได้เริ่มการเดินทางอันยาวนานสู่สันติภาพและความมั่งคั่งด้วยความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมาย

ด้านความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ต่อความสัมพันธ์ของสองเกาหลี กลับเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงท่าทีของเกาหนีเหนือย่างรวดเร็วนี้ยังไม่อาจเชื่อถือได้ และเกาหลีเหนืออาจพยายามใช้ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเกาหลีเหนือเพื่อให้มีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรและแรงกดดันจากนานาชาติ และเพื่อโฆษณาชวนเชื่อภายในประเทศ ขณะที่ทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐอยากรู้ว่า การที่ผู้นำเกาหลีเหนือพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับล่างของเกาหลีใต้ และต้อนรับด้วยรอยยิ้ม จะหมายถึงว่า เขาพร้อมเจรจาเรื่องนิวเคลียร์และขีปนาวุธหรือไม่

ขณะที่คณะทูตพิเศษ คาดหวังว่าจะมีการเจรจาอย่างเป็นทางการร่วมกันในอนาคต ซึ่งจะทำลายกำแพงความขัดแย้งทางการทูตของสหรัฐและเกาหลีเหนือ และโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ แม้ความสัมพันธ์ของสองเกาหลีจะดูเหมือนพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่ทั้งสองเกาหลีและสหรัฐฯยังคงห่างไกลจากประเด็นสำคัญที่ยังหาจุดร่วมกันไม่ได้

พลเอกคิม ยองโชล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานข่าวกรองหลักแห่งเกาหลีเหนือ กล่าวเน้นถึงจุดยืนของรัฐบาลเกาหลีเหนือระหว่างเข้าร่วมพิธีปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชังว่า ทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐต้องยุติการฝึกซ้อมรบทางทหารร่วมกัน และจะไม่มีการเจรจาประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือร่วมกับสหรัฐ  หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ซึ่งเป็นสื่อทางการของเกาหลีเหนือ รายงานวันนี้ว่า "อาวุธนิวเคลียร์เปรียบเสมือบดาบแห่งความยุติธรรมเพื่อกวาดล้างปีศาจแห่งนิวเคลียร์ออกไปจากโลกตลอดกาล" เพื่อส่งสารไปยังสหรัฐว่า "สหรัฐเปรียบเสมือนปีศาจแห่งอาวุธนิวเคลียร์"

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ จะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อรายงานผลการพูดคุยล่าสุดกับเกาหลีเหนือกับทางสหรัฐฯ

ท่าทีของสหรัฐฯ พูดถึงการพูดคุยของสองเกาหลีแต่เพียงว่า เป็น "มุมมองเชิงบวกที่ยังต้องระมัดระวัง" ในการพัฒนาการติดต่อของสองเกาหลี  แต่การเจรจากับเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ 

logoline