"สหรัฐฯ" โต้งแย้งเกาหลีใต้ประเด็นเกาหลีเหนือ

เมื่อวานนี้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนขณะเดินทางด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่ง "แอร์ฟอร์ซทู" กลับสหรัฐฯ หลังเดินทางมาร่วมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองเปียงชางของเกาหลีใต้ว่า เขากับประธานาธิบดีมุน แจ-อิน 
ยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในความพยายามร่วมมือกันต่อต้านเกาหลีเหนือ และย้ำว่าไม่มีความเห็นต่างเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ถึงความจำเป็นในการโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือในทางการทูตและเศรษฐกิจจนกว่าจะยุติโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
คำแถลงของรองผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังเกาหลีเหนือส่งผู้แทนจำนวน 280 คนข้ามแดนมายังเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกที่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นำโดยนายคิม ยอง นาม วัย 90 ปี ประธานสภาประชาชนซึ่งเป็นประมุขของประเทศในทางพิธีการ และคิม โย จอง น้องสาวต่างมารดาของผู้นำ คิม จอง-อึน วัย 28 ปี 
ที่ถือเป็นสมาชิก "ตระกูลคิม" คนแรกที่เดินทางมายังเกาหลีใต้ โดยในการพบหารือกันที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซลเมื่อวานนี้ น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือได้ส่งคำเทียบเชิญผู้นำเกาหลีใต้เพื่อเยือนกรุงเปียงยางอย่างเป็นทางการโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะถือเป็นการประชุมสุดยอด 2 เกาหลีครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ และเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกในสมัยของคิม จอง-อึนด้วย
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่านี่คือกลยุทธ์ "การหว่านเสน่ห์เชิงรุก" ของเกาหลีเหนือเพื่อให้ประชาคมโลกผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติคว่ำบาตรถึง 3 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว และยังมีจุดประสงค์เพื่อบ่อนทำลายความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ด้วย
ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อวันศุกร์ ผู้นำเกาหลีใต้ สหรัฐฯ เกาหลีเหนือ และญี่ปุ่นต่างนั่งอยู่ใกล้กัน แต่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เลือกที่จะไม่ทักทายผู้แทนของเกาหลีเหนือ และปฏิเสธเข้าร่วมงานเลี้ยงก่อนเริ่มพิธีเปิดซึ่งมีผู้แทนเกาหลีเหนือเข้าร่วม