svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กางแผนอสังหาฯ ครึ่งปีแรก ’61 ดีเวลลอปเปอร์ดันโปรเจกต์แลนด์มาร์คตามคาด

09 กุมภาพันธ์ 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

[สกู๊ปพิเศษ] จากการคาดการณ์ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 61 พบแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางดีขึ้น เป็นผลจากปัจจัยการส่งออก การท่องเที่ยว มีความคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งรัฐบาลยังเดินหน้านโยบายตึงอัตราดอกเบี้ยให้คงที่ รวมถึงมีแผนลงทุนเมกะโปรเจกต์อย่างต่อเนื่อง อาทิ พัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก



(EEC) ขยายเส้นทางให้บริการรถไฟฟ้ามหานครให้ครอบคลุมทั้งฝั่งในเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ผู้บริโภคกลับมามีความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ อีกครั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ พากันกางแผนครึ่งปีแรก ด้วยการผุดโปรเจกต์แลนด์มาร์ค ภายหลังจากซุ่มซื้อที่ดินราคาแพงบนทำเลย่านเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ

กางแผนอสังหาฯ ครึ่งปีแรก ’61 ดีเวลลอปเปอร์ดันโปรเจกต์แลนด์มาร์คตามคาด


ศุภาลัยสร้างเสียงฮือฮาไปเมื่อช่วงปลายปี 60 กับการประมูลซื้อที่ดินแปลงสถานฑูตออสเตรเลีย 7 ไร่


ศุภาลัย ได้ฤกษ์เปิดตัวบิ๊กโปรเจกต์แลนด์มาร์ค บนที่ดินสถานฑูตออสเตรเลีย


จากความสำเร็จในการกอบกู้กำไรเป็นอันดับ 1 ของตลาดอสังหาฯ ปี 60 จึงทำให้บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ใส่เกียร์เดินหน้าสร้างแผนกลยุทธ์ใหม่ โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 33,000 ล้านบาท และรายได้ 26,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 35 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 30 โครงการ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ รวมไปถึงบิ๊กโปรเจกต์ที่ทางผู้ประกอบการอสังหาฯ สร้างเสียงฮือฮาไปเมื่อช่วงปลายปี 60 กับการประมูลซื้อที่ดินแปลงสถานฑูตออสเตรเลีย 7 ไร่ บริเวณถนนสาทร มูลค่า 17,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยสุดหรู เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ารีเทล รวมถึงแหล่งงาน 


และเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 61 ทางผู้ประกอบการได้เผยข้อมูลบิ๊กโปรเจกต์นี้ กับการดีไซน์ให้เป็นลักษณะมิกซ์ยูส ตามที่หลายคนคาดไว้ อันโดดเด่นทั้งรูปแบบดีไซน์และการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวของสถานฑูต พร้อมใส่รายละเอียดนวัตกรรมต่างๆ ลงไปในโครงการ เพื่อให้ก้าวเข้าสู่อสังหาฯ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยโครงการนี้จะถูกกำหนดให้เป็นแลนด์มาร์คของถนนสาทร ล่าสุดมีการเปิดเผยชื่อโครงการแล้วคือ "ศุภาลัยไอคอน" ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณภายในปีนี้อย่างแน่นอน

กางแผนอสังหาฯ ครึ่งปีแรก ’61 ดีเวลลอปเปอร์ดันโปรเจกต์แลนด์มาร์คตามคาด


แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เช่าสวนชูวิทย์ สร้างโครงการมิกซ์ยูสสุดหรู


แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปิดสวนชูวิทย์ เช่าพื้นที่สร้างโครงการมิกซ์ยูสสุดหรู


แผนปี 61 นอกจากบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะตั้งเป้ายอดขายเติบโต 19% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้ว จากการเปิดโครงการแนวราบ 14 โครงการ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ รวมเป็น 18 โครงการ โดยหนึ่งในนั้นมีโปรเจกต์ใหญ่ที่ผู้ประกอบการได้ลงทุนขอเช่าพื้นที่สวนชูวิทย์ จำนวน 6 ไร่ บริเวณสุขุมวิทซอย 10 เพื่อสร้างโครงการมิกซ์ยูสสุดหรู แบ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงานให้เช่า 20,000 ตร.ม. โรงแรม 400 ห้อง และพื้นที่ค้าปลีกอีก 3,000 ตร.ม. งบลงทุนพัฒนาโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ขณะนี้ทางแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ทำการเซ็นสัญญาทำธุรกรรมที่ดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีการแจกแจงรายละเอียดระยะเวลาให้เช่าพื้นที่ 30 ปี และสามาถต่ออายุได้อีก 4 ปี ทั้งนี้มีการกำหนดระยะเวลาการก่อสร้างปี 62 นี้ 


กางแผนอสังหาฯ ครึ่งปีแรก ’61 ดีเวลลอปเปอร์ดันโปรเจกต์แลนด์มาร์คตามคาด

ออริจิ้น ผุดอาณาจักรมิกซ์ยูส กลางทองหล่อ

ออริจิ้น ผุดอาณาจักรมิกซ์ยูส 3 ทำเลใจกลางเมือง


สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เรียกว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด และเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 61 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายนี้ยังสร้างปรากฎการณ์ฮือฮาอีกครั้ง นอกเหนือจากการตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้านบาท พร้อมเน้นสร้างรายได้ทะลุ 15,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีแผนจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส 3 โครงการ 3 ทำเล เพื่อสร้างโครงการแฟล็กชิพภายใต้คอนเซ็ปต์ "พาร์ค ออริจิ้น คอมเพล็กซ์" รวมมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท ในทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ พร้อมพงษ์ ทองหล่อ และ พญาไท โดยตั้งเป้าวัตถุประสงค์ให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ด้านการอยู่อาศัยของโลก ที่ผู้บริโภคจะให้น้ำหนักกับการเข้าอยู่อาศัยในโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน โดยขณะนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณารายละเอียดของการพัฒนาแต่ละโครงการ



เห็นได้ว่าหลายผู้ประกอบการอสังหาฯ ต่างให้ความสำคัญกับการสร้างโปรเจกต์มิกซ์ยูสในปี 61 ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยของราคาที่ดินโซนไข่แดงของกรุงเทพฯ อย่างเส้นสุขุมวิท พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ต่างมีมูลค่าราคาที่ดินจับต้องได้ยากแล้ว อันเป็นผลจากการที่มีจำนวนที่ดินมาพัฒนาต่อน้อย เมื่อเทียบกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย เหตุนี้เองจึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ แข่งขันตลาดมิกซ์ยูสมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อกระจายความมั่นคงของรายได้จากโครงการที่สร้าง สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการพัฒนาโครงการในรูปแบบอื่นๆ และเป็นการใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างเต็มที่



เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com 

บทความข้างต้นเผยแพร่ครั้งแรกที่ DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์ ที่รวบรวม ข่าวอสังหาฯ คู่มือซื้อขาย และ รีวิวโครงการใหม่ ไว้กว่า 10,000 บทความ

logoline