เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บ 22 คนจากเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างผู้อพยพจากอัฟกานิสถานและเอริเทรียในเมืองคาเลส์ โดย 5 คนบาดเจ็บจากกระสุนปืน ซึ่งชาวเอริเทรีย 4 คนมีอาการขั้นวิกฤต จากการถูกยิงที่คอ อก ท้องและกระดูกสันหลัง และตำรวจกำลังตามล่าตัวชาวอัฟกัน วัย 37 ปีที่สงสัยว่าเป็นผู้ลั่นกระสุน ส่วนผู้อพยพอีกหลายคนมีบาดแผลถูกแทง
เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า เหตุปะทะรุนแรงเริ่มขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีระหว่างชาวเอริเทรียเกือบ 100 คนและชาวอัฟกันราว 30 คนเข้าแถวรอรับแจกอาหารใกล้กับโรงพยาบาลในเมือง โดยมีเสียงปืนดังขึ้นระหว่างการตะลุมบอน หลังจากนั้นเกิดการการปะทะอีกจุดในเขตอุตสาหกรรมห่างออกไปราว 5 กม. โดยผู้อพยพแอฟริกันราว 100 คนที่มีแท่งเหล็กและท่อนไม้เป็นอาวุธเข้าทำร้ายชาวอัฟกันที่มีเพียงเกือบ 20 คน และตำรวจพยายามเข้าห้ามปรามเพื่อช่วยชาวอัฟกัน ต่อมาในช่วงเย็นเกิดการวิวาทในจุดที่สาม และมีรายงานว่า ตำรวจสองนายได้รับบาดเจ็บระหว่างการเข้าระงับเหตุเหล่านี้
เหตุรนแรงเกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง เยือนเมืองคาเลส์ และประกาศว่าจะไม่ยอมให้เมืองท่าแห่งนี้ ถูกใช้เป็นเส้นทางผ่านสำหรับผู้อพยพเพื่อเดินทางต่อไปอังกฤษ โดยก่อนหน้านี้มีผู้อพยพรวมตัวมากถึงเกือบ 10,000 คนในเมืองกาเลส์จนถูกเรียกว่าค่ายอพยพ "จังเกิล" และรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนในปี 2559 แต่ปัจจุบันยังมีผู้อพยพหลายร้อยคนอาศัยในเมืองนี้