svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เจ้าชายซาอุ มหาเศรษฐีโลก จ่ายเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ แลกอิสรภาพ

30 มกราคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เจ้าชายอัล วาลีด บิน ทาลัล มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้มีฐานะมั่งคั่งที่สุดในซาอุดิอาระเบีย และยังรวยติดอันดับโลก ได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ต้องอยู่ในสภาพถูกกักบริเวณและไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทข้ามชาติอย่าง ทวิตเตอร์, ลิฟต์และซิตี้กรุ๊ป อีกต่อไป แม้ว่าจะยอมจ่ายเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อแลกอิสรภาพก็ตาม

เจ้าชายอัล วาลีด บิน ทาลัล พระชนมายุ 63 ชันษา ได้รับการปล่อยตัวออกจาก "คุก 5 ดาว" หรือ โรงแรมริทซ์ คาร์ลตัน ในกรุงริยาร์ด และได้รับอนุญาตให้บันทึกวิดีโอการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ส และแสดงให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ว่าไม่ได้ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด ซึ่งนับเป็นการเปิดเผยตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกล้อมจับพร้อมกับเจ้าชายและมหาเศรษฐีอีกจำนวนมาก ภายใต้มาตรการกวาดล้างคอรัปชั่นกระฉ่อนโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว
เจ้าชายอัล วาลีด ซึ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ หลังถูกควบคุมตัวนาน 2 เดือน และทำข้อตกลงทางการเงินกับรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกอย่างเป็นปกติดี และเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่แท็บลอยด์ เดลีเมล รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า สถานภาพของเจ้าชายอัล วาลีด ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ต้องถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากทางการ ถูกกักบริเวณและไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ แม้ว่าจะยอมแลกอิสรภาพด้วยเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม

ทรัพย์สินกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุฯ ของพระองค์ ถูกยึดไปแล้ว และเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมาร หรือพระนามย่อว่า MBS กำลังสาวไปถึงหุ้นในบริษัทข้ามชาติ เช่น ทวิตเตอร์, ลิฟต์, ซิตี้กรุ๊ป และโรงแรมหรู เช่น โรงแรมโฟร์ ซีซันส์ จอร์จ ไฟฟ์ ในปารีส และโรงแรมพลาซา ในนิวยอร์ก

MBS ยังคงสั่งจับตาเจ้าชายอัล วาลีด อย่างใกล้ชิด และไม่ให้อิสรภาพ 100% แต่เป็นเพียงแค่การแก้ไขภาพลักษณ์เพื่อต่อสู้กับสารคดี Newsnight ของ BBC ที่สร้างความไม่พอพระทัยให้พระองค์ และคิดขึ้นมาในเวลาไม่กี่นาที โดยระบุว่า ภาพที่เห็นไม่เป็นจริงทั้งหมด และตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดนักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีวังและห้องนอนมากถึง 435 ห้อง จึงมาทำครัวในห้องสูทของโรงแรมที่มีขนาดแค่ห้องน้ำห้องหนึ่งในวัง

แหล่งข่าวบอกอีกว่า ในอนาคตเจ้าชายอัล วาลีด จะถูกสูบอำนาจในการควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง "Kingdom Holding" แต่ที่ยังไม่ผลีผลามก็เพราะสารคดีของ BBC ออกมาตัดหน้าเสียก่อน อีกทั้งนักธุรกิจชาวแคนาดา อลัน เบนเกอร์ ที่ถูกเรียกตัวไปอ่านปรักปรำเจ้าชายอัล วาลีด เพื่อกดดันให้ยอมมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้ MBS ได้ให้สัมภาษณ์สารคดีชุดนี้ด้วยว่า เขาพูดกับเจ้าชายอัล วาลีด ผ่าน video conference และพบว่า พระองค์อยู่ในคุก ไม่ใช่โรงแรมหรู ไม่สุขสบาย ไม่โกนหนวดเครา อ่อนล้าและกระวนกระวาย

นอกจากนี้ ยังมีเสียงปิดประตูบานเลื่อน ที่ยังไงก็ไม่ใช้ประตูโรงแรมริทซ์ และที่เขาถูกเรียกตัวไปให้ปากคำ ก็เพราะทำงานใกล้ชิดเจ้าชายอัล วาลีด มาก่อน และเคยเป็นตัวแทนในการเจรจากับ "ชายาลับ" เพื่อจัดการเรื่องแยกทางกันด้วย

logoline